วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คาวสวาท กามโลกีย์ 3

(คาวสวาท กามโลกีย์3)
เริงชัยแอบหัวเราะในใจ ตอนนั้นก็ผุดลุกขึ้น
"ผมเองรบกวนเวลาคุณพนมมานานแล้ว คงต้องขอตัว อีกอย่างคิดว่าคุณพนมคงอยากไปเฝ้าดูแลอาการคุณเอด้วย"
พนมก็ผุดลุกขึ้นส่ง ยื่นมือให้เริงชัยจับ
"ผมขอขอบคุณ คุณเริงชัยมากนะครับสำหรับทุกอย่างในวันนี้"
เริงชัยยิ้มกว้างขวาง ขณะจับมือชายหนุ่มเขย่าแรงๆ
"ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือคุณพนมกับคุณเอในทุกๆ ทาง"
หนุ่มใหญ่ขณะจะก้าวเดินออกไปจากบ้าน ก็นึกอะไรขึ้นได้ หันมาบอก
"อ้อ คุณเอเธอเป็นลมแดดไป คุณพนมก็ช่วยเธอผลัดเป็นเสื้อผ้าสบายๆ ใช้น้ำอุ่นเช็ดไปตามตัว ก็จะช่วยได้มากเลยนะครับ"
พนมผงกศีรษะ กล่าวขอบคุณ จากนั้นก็เดินออกไปส่งเริงชัยเข้าไปนั่งในรถเบนซ์ ซึ่งนายสอนนั่งรออยู่ตรงตำแหน่งคนขับอยู่ก่อนแล้ว
ก่อนจากเริงชัยเปิดกระจกหน้าต่าง แล้วกล่าวกับพนม
"อย่าลืมนะครับ มีเรื่องอะไรจะปรึกษา โทรศัพท์ไปหาผมได้ทุกเมื่อ"
"ครับ ขอบคุณคุณเริงชัยมาก"
พนมว่า จากนั้นนายสอนก็ขับรถออกไป ชายหนุ่มปิดประตูบ้าน แล้วรีบเดินกลับเข้าไปดูอาการของภรรยาแสนรักของตัวเอง
ชายหนุ่มกลับขึ้นไปที่ห้องนอน ซึ่งปาริฉัตรยังคงนอนหลับสนิทอยู่
พนมเดินไปนั่งข้างๆ กายของภรรยา ยกมือขึ้นลูบผมดำสนิทของปาริฉัตรอย่างทะนุถนอมอ่อนโยน พึมพำ
"เอจ๋า พี่ขอโทษ"
เขาพิจารณาวงหน้าอันงดงามอ่อนหวานที่หลับตาพริ้ม อวดขนตายาวงอนเป็นแพ ราวกับเป็นเจ้าหญิงนิทราของปาริฉัตรแล้ว ในใจเกิดความรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาอย่างประหลาด จนต้องก้มหน้าลงไปบรรจงจูบที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มราวกับกลีบกุหลาบนั้นอย่างอด ใจไม่ได้
กลิ่นหอมจากเรือนร่างปาริฉัตร ความนุ่มเนียนของวงหน้า พนมยิ่งจูบไปความรู้สึกเสียวซ่านบางอย่างก็ยิ่งลุกโชนขึ้นมา ทำให้ชายหนุ่มเกิดความใคร่ ความปรารถนาในตัวของภรรยาแสนสวยของเขาขึ้นมาอย่างมากมายเหลือคณา
"เอจ๋า เอของพี่ สวยเหลือเกิน"
เขาพึมพำออกมา ขณะที่จูบไซร้ไปตามซอกคอขาวผ่องของปาริฉัตร มือสั่นของเขาขยำไปบนทรวงอกที่หยุ่นมือเต็มเต้าของภรรยา
ขณะที่จะทำอะไรๆ ต่อไปตามแรงตัณหาที่ลุกโชนขึ้น มโนสติส่วนลึกของชายหนุ่มก็ร้องเตือนว่าเขากำลังทำอะไรกับภรรยาที่กำลังป่วย มันช่างน่าขายหน้าจริงๆ
พนมต้องใช้ความพยายามอย่างหนักก่อนจะผละตัวออกมาได้ นั่งหน้าแดง หอบหายใจถี่ถี่ จนตัวโยน ยกมือขยี้ผมตัวเองแรงๆ เป็นการกระตุ้นสติ
"ไอ้บ้า แกทำอะไรวะ เอ กำลังป่วยอยู่นะโว้ย"
เขาพยายามบริภาษด่าตัวเองเพื่อเป็นการสะกดความอยากที่ลุกโชนขึ้นมา
ตอนนั้นพนมเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตรงปลายจมูกโด่งงามของภรรยาสุดที่รัก จึงนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของเริงชัยขึ้นมาได้
"เปลี่ยนให้เอ สวมเสื้อผ้าสบายๆ เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น เอคงรู้สึกดีขึ้น"
อนิจจา ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่เริงชัยแอบผสมเบียร์ให้ดื่ม
พนมเดินไปรองน้ำอุ่นใส่อ่างเล็กๆ กลับมาพร้อมกับผ้าขนหนู แล้วบรรจงชุบน้ำเช็ดไปตามวงหน้า ซอกคอของปาริฉัตร มือสั่นๆ ของเขา เอื้อมไปปลดสูททำงานของภรรยา ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตออกจนหมด ก่อนจะถอดเสื้อเชิ๊ตออกไปจากเรือนร่างงดงามของเธอ
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มแดงก่ำ ดวงตาที่แดงซ่านไปด้วยความปรารถนา จับจ้องไปยังผิวกายที่ขาวสดของปาริฉัตร ทรวงอกเต่งเต้าที่มียกทรงสีชมพูอ่อนแนบเนื้อปกปิดเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่
ขณะที่พนมใช้มืออันสั่นเทาของเขาเช็ดผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นไปตามผิวกายนุ่ม เนียนของปาริฉัตร แม้ว่าจะพยายามสูดลมหายใจ ตั้งสติอย่างไร แต่เพลิงราคะที่ลุกโชนขึ้นมาก็ทำให้ควยของเขาขยายออกจนตุงเป้ากางเกง
อา จะมีผู้ชายคนไหนในโลกที่จะยับยั้งความปรารถนาเมื่ออยู่ต่อหน้าเรือนกายที่งด งามสุดยอดของปาริฉัตรได้? อย่าว่าแต่ตอนนี้เลือดที่สูบฉีดไหลเวียนไปทั่วร่างกายของชายหนุ่มนั้นเต็มไป ด้วยฤทธิ์ของยาสวาทอันร้อนแรง
ความปรารถนาที่คุโชนขึ้นมาในที่สุดก็บดบังสติสัมปชัญญะของพนมไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มโถมตัวลงไปทาบทับปาริฉัตร กอดจูบเค้นคลึงไปตามผิวกายขาวผ่องนุ่มเนียนอย่างหื่นกระหาย!!!
ปาริฉัตรค่อยๆ ได้สติขึ้นมาอย่างช้าๆ ท่ามกลางอาการเจ็บปวดขัดไปทั่วเรือนร่าง โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย ต่อเนื่องกับช่วงหว่างขาตนเอง ทันใดนั้นเองหญิงสาวก็รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น คนๆ หนึ่งที่กดทับลงมาบนร่างกายของเธอที่กำลังนอนอยู่บนเตียงตัวเปล่าเปลือยนั้น กำลังสอดใส่ความเป็นชายของเขาเข้ามาในตัวของเธอ สร้างความเจ็บแปลบร้าวระบมตรงหว่างขาอย่างสุดจะทนทาน
ปาริฉัตรส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดระคนตื่นตระหนกใจอย่างสุดขีด พอเห็นคนๆ นั้นคือสามีของเธอเอง หญิงสาวก็พยายามดันตัวเขาออกไป
"อย่าค่ะ..พี่หนึ่ง...เอเจ็บนะ...โอ๊ย...อย่าค่ะ..เอปวดเหลือเกิน..."
หญิงสาวร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว แต่เรี่ยวแรงของเธอน้อยเหลือเกิน ไม่สามารถต้านแรงแรงของพนมที่กำลังคลั่งด้วยความหื่นกระหายได้
ชายหนุ่มที่หน้ามืดสุดๆ แล้ว จับขาเพรียวงามเป็นลำราวกับแท่งหยกขาว ขึ้นพาดบ่าตัวเอง กระเด้าควยเย็ดเข้าใส่ร่องหีของปาริฉัตร ที่แม้ว่าจะถูกเริงชัยแหกทะลวงด้วยควยอวบของหนุ่มใหญ่มาเมื่อบ่ายนี้ แต่ความสดใหม่ของร่องหลืบที่ตีบฟิตสุดยอดก็ยังคงตอดรับกระชับกับลำควยของเขา แน่นอยู่ไม่สร่างเลย สร้างความสุขกระสันให้กับพนมจนครางออกมาอย่างสมใจ
"เอ..เอจ๋า พี่รักเอ หลงเอ..ไปหมดทั้งตัวแล้ว.."
พนมพยายามทำตามคำแนะนำของเริงชัย อันที่จะแสดงให้เห็นว่าเขานั้นยังรักใคร่ใหลหลงในตัวของปาริฉัตรไม่สร่าง แต่ทว่าตอนนั้นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระหายอยาก น้ำเสียง และแววตาของเขามันต่างไปจากพี่หนึ่งที่แสนจะอ่อนหวาน ทะนุถนอมเธอในทุกๆ เรื่องจนลิบลับ ท่าทีของพนมกลับสร้างความรู้สึกรังเกียจให้เกิดขึ้นในใจของหญิงสาวแทนที่
ประกอบกับความรุนแรงที่พนมทำกับเธออย่างไม่ปราณีปราศัย ร่างกายที่บอบช้ำมาจากการถูกควยใหญ่ของเริงชัยตะบี้ตะบันมา ปาริฉัตรก็มีแต่ความเจ็บปวด ทรมานจนแทบจะขาดใจเท่านั้น
"พี่หนึ่ง...เอ..เจ็บ...ขอร้อง...ได้โปรด...หยุด..หยุด..."
มิไยที่ปาริฉัตรจะร่ำไห้ขอร้องวิงวอนเขาอย่างไร แต่พนมที่ขาดสติไปแล้ว มีแต่ความต้องการที่จะปลดเปลื้องความอยากที่คุกโชนขึ้นมาอย่างมากมายของเขา ระบายเข้าใส่เรือนร่างที่สุดแสนจะงดงามตรงหน้านี้ถ่ายเดียว
สองขาที่จำเดิมนั้นปวดขัดไปหมดอยู่แล้ว ถูกพนมจับแหกถ่างออกสุดๆ ชายหนุ่มบดควยขยี้เข้าใส่ร่องหีที่บอบช้ำของปาริฉัตรอย่างหนักหน่วง สองมือที่ตะปบลงไปคลึงสองเต้าที่นุ่มนิ่มชูชันของหญิงสาวนั้นก็ขยำขยี้ไป อย่างรุนแรงไม่มีออมมือเลย ชายหนุ่มโน้มต้วลงไปดูดดื่มหัวนมงอนงามนั้นอย่างเมามันหื่นกระหาย
ปาริฉัตรที่พยายามดิ้นนั้น ดิ้นรนจนไร้เรี่ยวแรงจะดิ้นอีกต่อไป ในที่สุดร่างกายที่แสนจะบอบบางของหญิงสาว ก็ปวกเปียกอ่อนระทวย นอนแบบ ขาถ่างปล่อยให้พนมได้ตักตวงความสุขอย่างไม่มีปัญญาจะขัดขืนอีก ปาริฉัตรสะท้านเฮือกๆ อย่างเจ็บปวด ทุกครั้งที่ถูกพนมกระเด้าเย็ด น้ำตาไหลรินของเธอออกมานองหน้า รู้สึกร้าวระบมตรงโหนกหีของตัวเธอเองอย่างสุดจะเปรียบปาน หญิงสาวได้แต่วิงวอนขอร้องเสียงเครือสะท้าน
"พี่หนึ่ง..เอเจ็บเหลือเกิน...สงสารเอบ้าง...ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ.."
แต่อนิจจา เพลิงราคะนั้นเผามโนสติของชายหนุ่มไปจนหมดสิ้น พนมกระเด้าอัดอย่างไม่สนใจอาการที่น่าสงสารเวทนาของภรรยาแสนสวยของเขาเลยแม้ แต่น้อย เขาส่งเสียงครางกระเส่า
"อา..อา..เอจ๋า...พี่มีความสุขเหลือเกิน..."
ชายหนุ่มเร่งเครื่องทะลวงควยของเขาเข้าไปอีก ซอยคอยของเขากระแทกพั่บ พั่บ ครางออกมาอย่างสุดมัน
"อาาา....อาววววว....โอวววววว"
ยาสวาททำให้ความต้องการของพนมไม่มีทีท่าจะสิ้นสุดง่ายๆ เลย พนมจับขาเพรียวงามของปาริฉัตรม้วนไปจนถึงพนักเตียง ควงสะโพกบดหนอกควยเข้าไปอย่างเมามัน วนเวียนกระแทกกระทั้นอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง ท่ามกลางความสุขสุดๆ ที่ได้รับปลดเปลื้องตามแรงขับของยาสวาทนั้น สำหรับปาริฉัตรมันมีแต่ความเจ็บปวดทรมานราวกับร่างกายเธอจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ในที่สุดชายหนุ่มก็ครางอู้ออกมาเสียงดัง
"อาาาา....โอยยยยย....ออกแล้วววว...."
เขาทาทับกายลงไปตัวของปาริฉัตร อัดสะโพกกระเด้าถี่ยิบ บดควยกระฉูดน้ำเมือกราดรดเข้าไปในร่องสวรรค์อันบอบช้ำของปาริฉัตรอย่างสุดๆ เขาวนกระแทกรีดน้ำกาม ป๊าบ ป๊าบ เมื่อหน้าขากระแทไปตรงแก้มก้นขาวนวลของหญิงสาว
จนกระทั่งพนมไม่หลงเหลือน้ำเชื้อใดๆจนกระทั่งพนมไม่หลงเหลือน้ำเชื้อใดๆ จะให้เขารีดเค้นออกมาอีก ร่างของชายหนุ่มจึงฟุบหอบทาทาบไปบนร่างขาวผ่องของภรรยาที่นอนอยู่กับเตียง นิ่งไม่ไหวติง
เมื่ออารมณ์หื่นถูกปลดเปลื้องไปจนสงบลง พนมก็ใจหายวาบ นี่เขาทำอะไรลงไป?
ชายหนุ่มเห็นภรรยาแสนรักที่นอนอยู่นั้น เบนใบหน้าที่งดงามของเธอออกไปด้านข้าง ไม่ยอมมองหน้าเขาแม้แต่แว่บเดียว น้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาคู่งามนั้นเป็นสาย หัวไกล่กลมมนนั้นสั่นสะท้านราวกับลูกนกที่เปียกฝนโหยหาอ้อมอกของแม่
ทันใดนั้น ความรู้สึกผิด เสียใจ ละอาย ประดังขึ้นมาในใจอย่างสับสน
"เอจ๋า..เอ..พี่...พี่..ขอโทษ"
พนมกระซิบ วางมือไปบนหัวไหล่ขาวผ่องกลมมนนั้น พลางเขย่าเบาๆ แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ จากปาริฉัตรเลย นอกจากเสียงสะอื้นไห้ของเธอ
ชายหนุ่มเขย่าหัวไหล่ของภรรยาแสนรักแรงขึ้น
"เอ..เอพูดกับพี่หน่อยสิ จะด่าว่าอะไรพี่ พี่ก็ยอม..พี่มันเลว..พี่ขอโทษ"
พนมพร่ำเพ้อ แต่ไม่มีคำตอบใดๆ จากหญิงสาวเลยแม้แต่คำเดียว จนพนมที่สติมืดมัว ไม่รู้จะหาทางออก หรือทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ ก็ได้แต่ผละตัวขึ้นมา
เขามองเรือนร่างภรรยาแสนรัก ทรวงอกที่ชูชันเต่งเต้าทั้งสองข้างนั้น เป็นรอยช้ำจากรอยมือของตัวเขาเองที่ขยำขยี้ไปอย่างไม่ปราณีปราศรัย พนมยกมือกุมศีรษะตัวเองอย่างเสียใจ
"โธ่ เอจ๋าพี่ผิดไปแล้ว พี่ไม่น่าทำอย่างนี้กับเอเลย"
พนมคิดในใจอย่างเป็นทุกข์ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่กลับคืนมา มโนธรรมในใจนั้นรุมประนามการกระทำของตัวเอง จนชายหนุ่มเสียวแปลบไปถึงขั้วหัวใจ นี่เขาทำสิ่งที่เลวร้ายอย่างนี้กับภรรยาที่แสนดีของเขาได้อย่างไร?
เมื่อแน่ใจว่าปาริฉัตรคงไม่ยอมพูดจาอะไรกับเขาในเวลานี้แน่นอนแล้ว พนมก็บรรจงใช้ผ้าห่มวางคลุมร่างเปลือยของปาริฉัตรเอาไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนจะควานหากางเกงที่เขาถอดทิ้งอยู่แถวนั้นขึ้นมาสวม แล้วเดินโผเผออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกท้อแท้ละเหี่ยใจอย่างสุดขีด
เริงชัยนิ่งกบดานรอดูสถานการณ์ สองสามวันผ่านไปโดยที่เหตุการณ์ที่ตัวเขาเองข่มขืนปาริฉัตรมิได้เกิดเป็น เรื่องเป็นราวอะไรขึ้นมาหาตัวเขาเลยแม้แต่น้อย หนุ่มใหญ่สุดเจ้าเล่ห์ก็ยิ้มออกมา แน่ใจว่าแผนหาแพะรับบาปของเขาน่าจะสัมฤิทธ์ผลลงได้อย่างงดงาม
"ฮะๆ ยาของไอ้สอนมันเด็ดจริง"
เริงชัยคำนึงในใจ ขณะที่ต่อโทรศัพท์ไปยังบริษัทของพนม แต่คนในบริษัทบอกว่าชายหนุ่มไม่ได้มาทำงานหลายวันแล้ว
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์จึงให้นายสอนขับรถพาไปยังบ้านของชายหนุ่ม ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ พนมหมกตัวอยู่ที่บ้าน ตอนนี้สภาพของเขาดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ไว้เครารุงรัง เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า
"เอ.เอ..เขาหนีผมกลับไปบ้านพ่อแม่เธอแล้วครับ"
พนมพูดด้วยเสียงแหบแห้ง ขณะที่เขาเชื้อเชิญเริงชัยเข้ามานั่งในห้องรับแขกเรียบร้อย
หนุ่มใหญ่แอบหัวเราะออกมาในใจอย่างกระหยิ่มยินดี ความจริงเขาเพียงต้องการให้พนมมาเป็นแพะรับบาปต่อสิ่งที่เขากระทำต่อ ปาริฉัตรเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าแผนของเขากลับยิ่งสร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ ของคู่สามีภรรยาให้บาดลึกขึ้นไปอีกเลยแม้แต่น้อย
"บ๊ะ ยิงปืนนัดเดียว ได้นกตั้งสองตัว เด็ดจริง"
เริงชัยนึกในใจอย่างลิงโลด แต่สีหน้าภายนอกทำเป็นตกใจ ไถ่ถามอย่างเป็นห่วง
"อะไรกัน เรื่องราวบานปลายไปถึงขนาดนั้นเชียวหรือ"
พนมหลบสายตาของเริงชัย กล่าวเสียงสั่น
"ผมมันเลวเองครับ วันนั้นไม่รู้ผีห่าซาตานอะไรเข้ามาสิงผม บังคับขืนใจเธออย่าง..อย่างเลวที่สุด ..เอเขาร้องไห้วิงวอนยังไง ผมก็ไม่หยุดทำกับเธออย่างรุนแรง..ผม..ผมมันชั่วจริงๆ"
เริงชัยตีบทแตก อย่างน่าจะได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง เขาตบบ่าของพนมอย่างเห็นอกเห็นใจ
"ผมเข้าใจครับ คุณพนม บางทีความรักที่เรามีมากๆ จนเหลือล้น มันก็ทำให้เราขาดสติไปได้เหมือนกัน"
"เอเขาเสียใจมาก ไม่ยอมพูดกับผม ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ เธอโทรศัพท์ไปบอกที่บ้านพ่อแม่เธอ ขอให้ท่านมารับกลับไปบ้าน ผม..ผมทำร้ายเธอไว้เจ็บมาก เอกระทั่งจะเดินยังแทบทำไม่ได้เลย ผมไม่กล้าแม้แต่จะสู้สายตาของคุณพ่อคุณแม่ของเธอเลย"
พนมพูดด้วยท่าทางของคนหมดอาลัยตายอยาก เริงชัยปลอบ
"ทำใจให้สบายเถอะครับ หมั่นไปขอโทษเธอ คุณเอก็คงใจอ่อน"
"ตั้งแต่เกิดเรื่องผมก็พยายามไปหาเธอทุกวันนะครับ แต่ทางบ้านเอเขาคงโกรธผมด้วย ไม่ค่อยต้อนรับเลย เอก็ไม่ยอมพบผมด้วย"
พนมกล่าวอย่างท้อใจ
"ตอนนี้คุณเอยังโกรธอยู่ อีกสักพักพอเธอค่อยคลาย คุณพนมพยายามต่อไปเถิด ในที่สุดผมว่าคุณเอคงให้อภัย"
พนมมีสีหน้าดีขึ้น กล่าวถามเริงชัยแบบหมดท่า
"คุณเริงชัยคิดว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือครับ"
"แน่สิคุณพนม คุณเอเธอรักคุณมากนะ ผมดูแววตาเธอออก"
คราวนี้เริงชัยพูดด้วยใจจริงไม่ได้แกล้ง ชายหนุ่มยกมือลูบใบหน้าอย่างอิดโรย เริงชัยกล่าวต่อ
"ออกไปข้างนอกเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเถอะครับคุณพนม หมกตัวอยู่แต่ในบ้านจะเสียสุขภาพไปเปล่าๆ"
พนมกำลังเซ็งสุดขีดคิดอยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง ก็ผงกศีรษะ
เวลาผ่านไปอีกร่วมอาทิตย์ ไม่ว่าพนมจะพยายามเพียรไปหาปาริฉัตรที่บ้านอย่างไร หญิงสาวก็ไม่ยอมลงมาคุยด้วย ถึงแม้ว่าท่าทางของพนมซึ่งน่าสงสารมาก จนกระทั่งคุณชิด กับคุณปองรักซึ่งเป็นบิดามารดาของปาริฉัตรยังใจอ่อน เพราะเชื่อว่าชายหนุ่มรู้สึกผิดจริงๆ ช่วยพูดให้พนม แต่หญิงสาวก็ยังไม่หายน้อยใจเสียใจ ไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น หมกตัวอยู่แต่ในห้อง
เริงชัยที่ได้รับการยุจากนายสอน ลอบหยั่งเชิงท่าทีของปาริฉัตรที่เขาหลงใหลใฝ่ฝันโดยการโทรมาหาวันหนึ่ง หลังจากทำทีเป็นทักทายแบบผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว เขาก็เสนอด้วยใจที่เต้นระทึก
"ถ้าคุณเอไม่สบายใจ อยากไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ ผมมีที่พักอยู่หัวหิน คุณเอไปพักได้เสมอเลยนะครับ"
ปาริฉัตรตื้นตันใจในข้อเสนอของหนุ่มใหญ่ซึ่งหญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าเขานั้น ได้ทำการอันชั่วช้ามอมยาสลบข่มขืนเธอ แถมยังป้ายความผิดโยนบาปเคราะห์ไปให้พนมสามีอันเป็นที่รักของเธออีกด้วย
"ขอบคุณคุณเริงชัยมากค่ะ แต่เอขออยู่ที่บ้านเงียบๆ ดีกว่า"
เริงชัยพยายามชักชวนอีกครั้งสองครั้ง แต่ทุกครั้งปาริฉัตรปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ซึ่งหนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ไม่ต้องการคะยั้นคะยอให้มาก เพราะเกรงเหยื่อสาวจะตื่นเสียเปล่าๆ ได้แต่ลอบขัดใจ ในความใจแข็งของปาริฉัตร
จนกระทั่งวันหนึ่ง หญิงสาวที่นั่งซึมมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ได้ยินเสียงเคาะประตู แต่เธอไม่ทันจะส่งเสียงตอบ ร่างเล็กๆ บอบบาง ก็ผลุบเข้ามาร้องเสียงใส
"ฮั่นแน่ พี่เอมานั่งอยู่นี่เอง"
ปาริฉัตรหันไปที่ประตู ก็เห็นภาพของเด็กสาวแรกรุ่นวัยประมาณสิบหกปี ตาโต จมูกโด่ง ปากเรียวบางจิ้มลิ้มเชิดน้อยๆ ผมดำขลับเป็นมันวาวนั้นไว้ทรงบ๊อบสั้น ขับให้วงหน้ารูปไข่ นั้น น่ารักน่าเอ็นดูอย่างกับตุ๊กตา ยืนยิ้มให้เธออยู่
แม้ว่ากำลังอยู่ในช่วงเศร้าสร้อย แต่เพราะความยินดี ทำให้หญิงสาวอ้าแขนออกรับร่างเล็กๆ ที่โถมเข้ามากอดเธอแน่น
"ยายบี นี่กลับมาทำไมไม่บอกไม่กล่าว พี่จะได้ไปรับ"
เด็กสาวคนนั้นแท้จริงก็คือ ปรีณาน้องสาวของปาริฉัตรนั่นเอง เด็กสาวที่ติดออกจะนิสัยแก่นแก้ว เป็นที่รักเอ็นดูของทุกคนในครอบครัว ตอนนี้เรียนอยู่เตรียมอุดมปีสุดท้ายแล้ว เธอเพิ่งกลับมาจากการไปเข้าแค้มป์ภาคฤดูร้อนที่ฝรั่งเศสตามโครงการแลก เปลี่ยนนักเรียนวันนี้นี่เอง สองศรีพี่น้องสนิทสนมกันมาก ปาริฉัตรพอเห็นน้องสาวอันเป็นที่รัก ด้วยความยินดีทำให้ลืมเรื่องเศร้าของตัวเองไปชั่วขณะ
ปรีณาหัวเราะคิก ใช้นิ้วจิ้มไปที่เอวของพี่สาวเล่น
"ตัวเองกำลังโศกาเรื่องพี่หนึ่ง จะไปมีกะใจอะไร สนใจเรื่องคนอื่นกับเขาล่ะ"
ปาริฉัตรหน้าแดง หยิกไปที่ต้นแขนน้องสาวจอมแก่น
"เซี้ยว เรื่องของผู้ใหญ่ เราน่ะเป็นเด็กเป็นเล็ก"
ปรีณาหัวเราะคิกคัก สองพี่น้องนั่งกอดกัน คุยกันกุ๊กกิ๊กเรื่อยเปื่อย ปาริฉัตรรู้สึกอารมร์แจ่มใสขึ้นมาอย่างมากมาย เมื่อมีปรีณามากระเง้ากระงอด วอแวอยู่ใกล้ๆ เช่นนี้
วันรุ่งขึ้นปรีณาที่สนิทสนมคุ้นเคยกับพนมเป็นอย่างดี นั่งแท็กซี่ไปหาชายหนุ่มถึงบ้าน รับรองแข็งขัน
"พี่หนึ่งไม่ต้องเป็นห่วง บีมาแล้วซะอย่าง เดี๋ยวจะช่วยพูดให้พี่หนึ่งเอง"
พนมใบหน้าสดชื่นแจ่มใสขึ้นมาทันตา ใช้มือลูบศีรษะที่ไว้ผมทรงบ๊อบนั้น ทำให้เด็กสาวดูไปคล้ายๆ ทอมบอยอย่างสุดเอ็นดู
"น้องบีช่วยพี่หนึ่งด้วยนะ พี่หนึ่งแย่แล้ว"
เด็กสาวย่นจมูกให้กับชายหนุ่มอย่างน่ารัก
"บีบอกก่อนนะ บีรักพี่เอของบีมาก พี่หนึ่งอย่ามารังเกพี่เขาให้เสียใจอีกเป็นอันขาดนะ ไม่งั้นบีจะเอาเรื่องพี่หนึ่งให้สุดๆ ไปเลย"
พนมส่งเสียงปฏิญาณแข็งขัน
"พี่หนึ่งสำนึกผิดทุกอย่าง รับรองด้วยเกียรติ์ของลูกผู้ชายจ้ะ ว่าจะไม่ทำให้พี่เอของบีเสียใจอีกเลย"
ตอนนั้นเองที่นายสอนขับรถพาเริงชัยมาถึงบ้านของพนม ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมานี้ พนมที่กำลังเศร้าใจอยากมีเพื่อนระบาย กับเริงชัยที่มีวัตถุประสงค์มุ่งหมายในใจ ทำให้ทั้งเริงชัยและพนมสนิทสนมกันมาก ออกไปหาอะไรดื่มด้วยกันแทบทุกคืน เพียงแต่ว่าพนมซึ่งกำลังระมัดระวังตัวแจ ไม่ยอมที่จะตามคำชวนของเริงชัยไปต่อที่คอนโดของหนุ่มใหญ่เลย เพราะไม่ต้องการเจอหน้าดาว
พนมแนะนำ ปรีณาให้เริงชัยรู้จัก
"คุณเริงชัยครับ นี่บีเป็นน้องสาวของเอครับ บีจ๊ะนี่คือคุณเริงชัยเป็นเพื่อนพี่เอง"
ปรีณาย่อตัวลงไหว้เริงชัยอย่างสุภาพเรียบร้อย เริงชัยรับไหว้ พลางนึกในใจ
"เพิ่งรู้หนูเอมีน้องสาวด้วย แหม หน้าตาน่ารักเหลือเกิน เป็นคนละแนวกับพี่สาว แต่น่าเอ็นดูเหมือนตุ๊กตา ดีไปคนละแบบ"
ปรีณาหันมาพูดยิ้มๆ กับพนม
"พี่หนึ่งมีแขกงั้นบีกลับก่อนล่ะค่ะ ส่วนเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง บีช่วยซะอย่างต้องเรียบร้อยแน่นอนค่ะ"
"อ้าว ถ้างั้นให้พี่ไปส่ง"
พนมว่า เด็กสาวยิ้มน่ารัก สั่นศีรษะ
"ไม่เป็นไรค่ะ บีนั่งแทกซี่กลับเองได้"
เริงชัยไม่รอช้าที่จะรีบสร้างคะแนนให้ตัวเอง
"คุณพนมไปส่งหนูบีเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงผม เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะมาหาใหม่แล้วกัน"
ชายหนุ่มผงกศีรษะรับ
"ต้องขอโทษคุณเริงชัยด้วยครับ พอดีน้องบีแกมาแบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัว"
ปรีณาหัวเราะคิก ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูสวยใสเหลือประมาณ จนเริงชัยเผลอจ้องตาค้าง
เมื่อยืนส่งพนมขับรถพาปรีณาออกไปแล้ว เริงชัยก็เดินกลับไปขึ้นรถ
นายสอนคนขับรถถาม
"นั่นใครครับ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน"
เริงชัยพูด ตอนนั้นหนุ่มใหญ่มีสีหน้าครุ่นคิด
"หนูบี เป็นน้องสาวหนูเอ กูก็เพิ่งรู้ว่าหนูเอมีน้องสาวด้วย"
นายสอนผู้ซึ่งชื่นชอบการเสพสังวาสกับเด็กสาวๆ แรกรุ่นเป็นพิเศษ แลบลิ้นเลียปากอย่างกระหาย เงาภาพของปรีณาฝังแน่นในหัวสมองของไอ้คนขับรถเจ้าเล่ห์ตั้งแต่แรกพบ
"แม่เจ้าประคุณทูนหัวของไอ้สอน น่ากัดน่ากินไปทั้งตัวเหลือเกิน"
คนขับรถบ้ากามคิดในใจอย่างกระสันซ่าน แลบลิ้นแผล็บๆ เมื่อมโนภาพนึกถึงมันจะมีโอกาสตะบันควยยักษ์เบิกร่องหีเด็กสาวสด โดยเฉพาะเด็กสาวที่สวยใสน่ารักอย่างสุดๆ อย่างปรีณา
เริงชัยแลเห็นอาการของคนขับรถคนสนิทก็รู้เท่าทัน ยกมือชี้หน้า
"เฮ้ย ไอ้เวรสอน มึงอย่าเสือกริอ่านทำอะไรกับหนูบีเขานะ กูขอเตือน จนกว่ากูจะจัดการกล่อมให้หนูเอมาเป็นสมบัติของกูให้เรียบร้อยซะก่อน"
นายสอนหัวเราะฮิ ฮะ
"ถ้าอย่างนั้น เห็นทีผมจะต้องรีบหาทางให้นายสำเร็จตามประสงค์เร็วๆ ซะแล้ว"
"เออ กูก็ว่างั้น ดูจากคำพูดของหนูบี ดูเธอมั่นอกมั่นใจว่าจะช่วยพูดให้สองคนนั่นคืนดีกันได้เแน่ๆ"
เริงชัยว่าสีหน้ากังวลใจ นายสอนขับรถไปก็คิดหนัก ในที่สุดก็ว่า
"ไปหาพ่อผมดีกว่า ขานั้นเรื่องแผนต้องยกให้"
นายสอนหมายถึงนายแจ้งผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นคนต้นคิดเรื่องมอมยาปลุกเซ็กส์ใส่พนมนั่นเอง เริงชัยเห็นพ้องด้วย
"เออ ดีมึงรีบขับไปเลย"
ปรีณาเด็กสาวแสนน่ารักที่กำลังเดินคุยมากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ของเธอหลังจาก เลิกเรียน หยุดเท้าชะงักลง เด็กสาวในชุดเครื่องกายนักเรียนแบบสุภาพเรียบร้อยน่ารักสมตัว ย่อตัวยกมือไหว้ หนุ่มใหญ่ที่นั่งตอนหลังรถ ซึ่งกำลังเปิดหน้าต่างออกมาทักทายเธอ เด็กสาวทักทายตอบอย่างอ่อนหวานสดใส
"สวัสดีค่ะ คุณลุง"
พวกเพื่อนๆ ของเด็กสาว แลเห็นว่าเพื่อนสาวของพวกตนมีแขก จึงพากันโบกมือลา ปรีณาโบกมือตอบกล่าวเสียงร่าเริง
"จ้ะ หวัดดี แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"
เมื่อรอให้กลุ่มนักเรียนเดินผ่านไปแล้ว เริงชัยก็พูดขึ้น
"พอดีลุงมีธุระมาหาคนรู้จักแถวนี้ พี่พนมเขาไม่ว่างมารับหนูบีเย็นนี้ ลุงเลยอาสามารับแทน"
เริงชัยพูดเสียงนุ่มนวลเหมือนกับผู้ใหญ่ใจดี ปรีณามีสีหน้าเกรงใจ กล่าวเสียงอ่อนๆ
"แหม พี่พนมเนี่ยจริงๆ เลย ไม่น่าจะต้องรบกวนคุณลุงเริงชัยเลยค่ะ บีนั่งแทกซี่กลับเองก็ได้"
"โธ่ รบกวนอะไรกัน คุณพนมกับลุงน่ะสนิทกันมาก กับคุณเอพี่สาวของหนูบี ลุงเองก็คุ้นเคยรู้จักดีอยู่"
เริงชัยพูดพลางเปิดประตูรถออก ปรีณาคิดเล็กน้อย เพราะไม่อยากขัดใจผู้หลักผู้ใหญ่ จึงย่อตัวไหว้ขอบคุณเริงชัยอีกครั้ง ก่อนจะก้าวเข้าไปในตอนหลังคู่กับหนุ่มใหญ่เจ้าเล่ห์
"คุณพนมเขาติดประชุมเย็นนี้พอดี เผอิญเราคุยกันอยู่ ลุงเลยรู้ว่าคุณพนมเขามารับหนูบีทุกวัน พอดีวันนี้มีธุระผ่านมาทางพญาไท เลยอาสามารับ"
เริงชัยพูดเรื่อยๆ ปรีณายิ้มอย่างน่ารัก กล่าวขอบคุณเสียงหวานใส นายสอนคนขับรถที่แอบเหลือบมามองผ่านกระจกมองหลัง แลเห็นรอยยิ้มของเด็กสาวแล้วคุยตุงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"หนูบีจ๋า ยิ่งเห็นใกล้ๆ ยิ่งสวยน่ารัก น่ากอด น่าจูบ ไปหมดทั้งตัว"
คนขับรถคนสนิทของเริงชัยคำนึงอย่างกระสันซ่าน
เริงชัยตอนนั้นกล่าวขึ้น
"หนูบีคงพอจะรู้ว่าลุงเองก็รับรู้อยู่ว่าคุณพนมกับคุณเอ มีเรื่องเข้าใจผิดกันอยู่ เห็นคุณพนมบอกกับลุงว่าหนูบีช่วยพูดประสานให้ หนูบีน่ารักมาก ลุงขอชมตรงๆ"
ปรีณาหน้าแดงด้วยความเขิน ยิ้มว่า
"แหม..คุณลุงชมซึ่งหน้าอย่างนี้ บีก็เขินแย่..."
เริงชัยหัวเราะ เด็กสาวแสนสวยที่แม้จะเป็นคนเจ้าปัญญา และมีความเฉลียวฉลาดทันคนเพียงใด แต่เล่ห์มารยาของเริงชัยนั้นลึกซึ้งเกินกว่าสติปัญญาหรือประสบการณ์ของเด็ก สาวแรกรุ่นจะตามทัน เธอหลงพาซื่อเชื่อสนิทใจว่าเริงชัยเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ใจดี หวังดีต่อพี่สาวและพี่เขยของเธออย่างจริงใจ
"พี่เอยังน้อยใจพี่หนึ่งอยู่บ้างค่ะ แต่ดูท่าทางใจอ่อนลงไปตั้งเยอะแล้ว นี่ที่ยังไม่ยอมเจอหน้าพี่หนึ่งเพราะยังงอนอยู่แท้ๆ สำหรับเรื่องโกรธ บีว่าพี่เอเขาหายโกรธพี่หนึ่งแล้วล่ะค่ะ"
ปรีณารายงานเสียงใส แจ้วๆ อย่างภาคภูมิใจในผลงานของตัวเอง
เริงชัยซ่อนยิ้มไว้ในหน้า ขณะกล่าว
"ลุงว่าเรามาช่วยกันอีกแรงให้พี่เอของหนูบี กับคุณพนมคืนดีกันให้เร็วๆยิ่งขึ้นดีไหมจ๊ะ"
ปรีณาตกหลุมของหนุ่มใหญ่เจ้าเล่ห์ทันที รีบถามว่า
"คุณลุงมีหนทางอะไรหรือคะ"
"ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนนักหรอกจ้ะ เราหาทางชักชวนให้หนูเอกับคุณพนมมาพบกันโดยบังเอิญ รับรองว่าคุณเอต้องใจอ่อนแน่ๆ"
เริงชัยกล่าวเสียงเค้าหัวเราะ ปรีณาเบิกตากลมโต ร้องเสียงดังอย่างตื่นเต้น
"โอ จริงๆ ด้วยค่ะ บีไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย"
เด็กสาวหัวเราะคิก ด้วยความรู้สึกสนุกที่เกิดขึ้นในใจ
"ดีล่ะค่ะ เรามาวางแผนกันดีกว่า บีจะทำทีพาพี่เอออกไปเที่ยวดูหนังหาอาหารรับประทาน คุณลุงก็นัดพี่หนึ่งมาเจอกัน ทำทีว่าเจอะกันโดยบังเอิญ"
เริงชัยผสมโรงหัวเราะด้วย หนุ่มใหญ่คำนึงอย่างกระหยิ่มใจ ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้
นายสอนที่หูผึ่งฟังอยู่ ก็ลอบหัวเราะในใจ นึกไปถึงนายแจ้งผู้เป็นบิดา
"เออ ยอดจริงพ่อ แผนของพ่อนี่มันเด็ดสะระตี่จริงๆ"
เริงชัยตอนนั้นกล่าวต่อ
"อ้อ ลุงไม่รู้ว่าจะรบกวนหนูบีมากไปไหม คือลุงมีหลานสาวห่างๆ คนหนึ่งชื่อดาว แกจะเอ็นปีเดียวกับหนูบีนี่แหล่ะ หัวไม่ค่อยดี หนูบีช่วยติวหนังสือแกหน่อยได้ไหมล่ะจ๊ะ"
ปรีณาแย้มยิ้มอ่อนหวาน
"ไม่รบกวนเลยค่ะ บียินดี และเต็มใจอย่างที่สุด คุณลุงนัดเวลามาได้เลยนะคะ บีจะติวให้สุดความสามารถเลยค่ะ"
เริงชัยหัวเราะกล่าวขอบคุณ ขณะที่นายสอนลิงโลดยินดีจนเนื้อเต้นตัวสั่น
หนุ่มใหญ่อาศัยการพาปรีณาไปส่งที่บ้าน เป็นการกรุยทางเข้าไปถึงบ้านของปาริฉัตร ซึ่งหญิงสาวพอทราบว่าเริงชัยมาส่งน้องสาว ก็รีบลงมาไหว้อย่างอ่อนน้อม ทั้งๆ ที่เป็นปกติพนมเป็นคนมาส่งนั้น เธอจะขังตัวเองอยู่แต่ในห้องไม่ยอมลงมาพบ
"ขอบคุณ คุณเริงชัยมากค่ะที่ช่วยมาส่งยายบี"
เริงชัยมองใบหน้าอันอ่อนหวานงดงามของปาริฉัตรอย่างหลงใหล หวนนึกไปถึงความหอมหวานแห่งเรือนกายตรงหน้าที่เขาเคยตักตวงอย่างอิ่มเอม แล้วมันแทบทำให้หนุ่มใหญ่แสนเจ้าเล่ห์อกแทบระเบิด กระสันซ่านอยากจะรวบร่างงดงามของหญิงสาวเข้ามากอดก่ายกระเด้าเย็ดให้สะใจ เหลือกำลัง
แต่หนุ่มใหญ่เฝ้าอดทน บังคับใจเอาไว้ ไม่ให้อารมณ์หื่นแสดงออกไปเลยแม้แต่น้อย บอกตัวเองว่าต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เริงชัยทำทีเป็นเสมือนผู้ใหญ่ใจดี นั่งคุยกับสองศรีพี่น้องอีกพักหนึ่งก็ขอตัวกลับไป
ปรีณาที่ได้รับการซักซ้อมมาจากเริงชัยแล้ว ก็รีบดำเนินการตามแผน
"พี่เอขา วันอาทิตย์นี้พาบีไปดูหนังหน่อยนะคะ แล้วก็ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน"
หญิงสาวสั่นศีรษะ เธอไม่อยากออกไปไหนทั้งสิ้นในช่วงนี้
"ไม่ล่ะจ้ะ พี่ไม่อยากไป บีมีเพื่อนเยอะแยะ ไม่ไปกับเพื่อนๆ ล่ะจ๊ะ มาชวนพี่ทำไมกัน"
"น่า..ก็บีอยากไปกับพี่เอนี่นา นะคะ นะคะ พี่เอคนดีของบี ไปน๊าาาาา"
ปรีณารบเร้าออดอ้อนพี่สาวของเธอด้วยท่าทีสุดแสนจะน่ารักน่าเอ็นดู ปาริฉัตรอดยิ้มออกไม่ได้ เอื้อมมือไปหยิกแก้มใสของเด็กสาว
"จ้า...พี่ไปด้วยก็ได้"
ปรีณาตบมือหัวเราะชอบใจ กอดปาริฉัตรหอมแก้มหญิงสาวฟอดใหญ่
"พี่เอน่ารักจัง บีรักพี่เอที่สุดในโลกเลย"
ปาริฉัตรหัวเราะออกมา แกะตัวน้องสาวออก ทำเป็นดุ
"อี๊ ตัวเหม็นจะตายเราน่ะ รีบไปอาบน้ำไป๊ แล้วจะได้ลงมารับประทานอาหารเย็นกัน คุณพ่อคุณแม่รออยู่"
ปรีณาหัวเราะคิก หอมแก้มพี่สาวอีกหลายฟอดใหญ่ ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างร่าเริง วันถัดมาดาวเด็กสาวกร้านโลกีย์ในสภาพของเด็กนักเรียนผู้เรียบร้อย ก็ปรากฏกายมาที่โรงเรียน แนะนำตัวเองให้ปรีณาได้รู้จัก
"สวัสดีจ้ะ เราชื่อดาว เป็นหลานคุณลุงเริงชัย"
ปรีณาเบิกตาโตอย่างน่ารักจนดาวนึกอิจฉาในใจ เด็กสาวแสนสวยยิ้มรับทักทายดาวด้วยความเป็นกันเอง
"สวัสดีจ้ะ เราชื่อปรีณา เรียกเราว่าบีก็แล้วกันนะ"
ดาวยิ้มแย้มให้ กล่าวอย่างอ่อนหวาน
"ขอบใจบีมากนะ ที่ช่วยสละเวลาติวให้ดาว"
ปรีณาหัวเราะคิก ส่ายศีรษะกล่าวยิ้มๆ
"ไม่เป็นไรจ้ะ บียินดีและเต็มใจช่วย"
นับจากวันนั้น ดาวก็จะเดินทางมาให้ปรีณาช่วยติวหนังสือตอนเย็นที่โรงเรียนเป็นประจำ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันอาทิตย์ ณ บริเวณโรงหนังเมเจอร์ในเวิร์ลเทรด เซนเตอร์ ขณะที่ปาริฉัตรยืนใจลอย รอน้องสาวที่เดินไปซื้อตั๋วดูหนัง สุ้มเสียงที่คุ้นหูเธอก็ดังขึ้นมาข้างๆ
"เอจ๊ะ"
หญิงสาวสะดุ้ง หันกลับไปก็พบกับพนมยืนอยู่ข้างๆ เธอ
"พี่หนึ่ง..."
ปาริฉัตรอุทานออกมาอย่างตกใจ หันไปมองทางที่จะไปซื้อตั๋วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของปรีณาจะผ่านมา หญิงสาวตัดสินใจขยับตัวจะเดินหนี พนมรีบขวางเอาไว้
"เอจ๋า อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ"
หญิงสาวน้ำตาคลอ พยายามบ่ายเบี่ยงตัวเองเดินหนีออกไป พนมไม่กล้ายื้อยุดฉุดกระชากปาริฉัตรในที่สาธารณะเช่นนี้ ได้แต่เดินตามต้อยๆ ปากก็พร่ำเพ้อ
"เอจ๋า พี่ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษ เอยกโทษให้พี่ด้วยนะ"
ปาริฉัตรได้ยินเสียงออดอ้อนของสามีสุดที่รัก ทำให้ใจอ่อนยวบ อีกประการความจริงเรื่องที่พนมทำรุนแรงกับเธอในวันนั้น หญิงสาวเลิกโกรธขึ้งเขาไปนานแล้ว เพราะคิดว่าจะอย่างไรเธอก็เป็นภรรยาของเขา แต่สิ่งที่ติดคา และยังสร้างความน้อยใจให้กับเธออยู่ไม่คลาย นั่นคือความระแวงว่าพนมไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น
ขณะที่พนมเดินตามปาริฉัตรไปต้อยๆ ปรีณาเด็กสาวแสนสวยที่แอบดูอยู่ ก็เดินตามไปห่างๆ ดวงตากลมโตมองไปยังพี่สาวและพี่เขยอันเป็นที่รักของเธอ ในใจก็ภวนาไปตลอด
"เจ้าประคู้น ขอให้พี่หนึ่งตื้อสำเร็จเถิด"
ในที่สุดใบหน้าสวยหวานน่ารักของเธอก็แย้มยิ้มออกมาอย่างดีอกดีใจ เมื่อเห็นพนมสามารถจูงแขนปาริฉัตรเข้าไปนั่งคุยในร้านขายไอสครีมร้านหนึ่ง ได้
"ฮิๆ พี่หนึ่งเอาเลย อ้อนเข้าไป พี่เอน่ะใจอ่อนจะตายไป"
เด็กสาวยกมือปิดปากหัวเราะคิกด้วยความสนุก เมื่อยืนเฝ้าซุ่มดูจนแลเห็นแต่ไกลว่าพี่สาวของตัวเธอ ยอมเอ่ยปากคุยกับพนมแล้ว ปรีณาก็ฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์เดินผละออกมา
"แค่นี้ก็เรียบร้อย"
ปรีณาคิดในใจอย่างยินดีปรีดา ก่อนจะเดินหายเข้าไปในโรงฉายภาพยนต์ด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ
ส่วนพนมนั้นบอกไม่ถูกว่าตนเองนั้นโล่งใจขนาดไหน เมื่อภรรยาแสนรักของตนเอง ยอมใจอ่อนให้เขาพาเข้ามานั่งรับประทานไอสครีม
ชายหนุ่มกุลีกุจอ สั่งไอสครีมรสมะนาวที่รู้ว่าปาริฉัตรชอบให้ แล้วนั่งดูหญิงสาวนั่งตักเล็มรับประทานด้วยนัยน์ตาดื่มด่ำ บอกกับตัวเองว่าคงเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้ปาริฉัตรเป็นภรรยา
ปาริฉัตรเห็นพนมเอาแต่จ้องหน้าเธอ ก็รู้สึกอายขึ้นมา ใบหน้าอ่อนหวานนั้นแดงเรื่อ กล่าวอุบอิบ
"พี่หนึ่ง..อย่าจ้องเอ..อย่างนั้นสิคะ อายคนอื่นเขา"
พนมหัวเราะชอบใจ กล่าวเสียงนุ่มนวล
"ไม่เห็นต้องอาย พี่ไม่อาย พี่รักเอ ขอมองเออย่างนี้ไปตลอดชีวิตเลย"
หญิงสาวหน้าแดงเข้มยิ่งไปกว่าเก่า ก้มหน้าลงอย่างสุดเขินอาย ในใจนั้นพองฟูด้วยความปิติสุข ตกลงใจพร้อมที่จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับสามีอันเป็นที่รักของเธอ
พนมมองหน้าภรรยาด้วยแววตาสุดเสน่หา ก่อนที่จะทำตัวให้เป็นปกติขึ้น เพื่อไม่ให้ปาริฉัตรเขินมากไปกว่านี้
ความขุ่นข้องหมองหมางเมื่อเลือนหายไป ก็หลงเหลือแต่ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนหวาน ที่ทั้งคู่มีให้แก่กันอย่างล้นเหลือ สองหนุ่มสาวสามีภรรยานั่งคุยกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมามองมาด้วยความชื่นชม
ทันใดนั้นเองพนมก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อมีเสียงใสๆ ดังทักขึ้น
"พี่พนม พี่พนมจริงๆ ด้วย ดาวคิดถึงพี่พนมจังเลย"
ปาริฉัตรที่เห็นเด็กสาวคนหนึ่งถลาเข้ามาคลอเคลียพนมจากทางด้านหลังพนัก ยื่นหน้าเข้าไปทักทายสามีของเธอแบบที่เรียกว่าหน้าแทบชนกัน ใบหน้าอันอ่อนหวานของหญิงสาวก็ถอดสีซีดเผือด ยิ่งเห็นอากัปกิริยาของพนมซึ่งนั่งหน้าซีด อ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนกับเด็กถูกจับผิดได้คาหนังคาเขา นัยน์ตาคู่งามของปาริฉัตรก็หลั่งน้ำตาใสๆ ไหลรินออกมา
พนมหน้าซีดเผือด พยายามสลัดเด็กสาวออกไป แต่ดาวกอดคอเขาเอาไว้แน่น ส่งเสียงหวานยั่ว
"นั่นใครคะ พี่พนม เพื่อนพี่เหรอ"
ชายหนุ่มพยายามสลัดการพัวพันจากเด็กสาวร่านโลกีย์ออกไป กล่าวเสียงหนักๆ
"ดาว ปล่อยพี่เดี๋ยวนี้ นี่มันที่สาธารณะนะ สำรวมตัวเองหน่อย"
เด็กสาวจีบปากจีบคอพูด
"ฮึ แล้วใครกันนะ ที่คืนนั้นกอดดาวไม่ปล่อยเองน่ะ ดาวน่ะรู้ซึ้งแล้ว ที่แท้พี่พนมก็เห็นดาวเป็นดอกไม้ริมทางเท่านั้น"
ปาริฉัตรสุดจะทนฟังต่อไปได้ หญิงสาวผุดลุกขึ้นทันที พนมใจหายวาบ รีบฉุดข้อมือเล็กบางของภรรยาเอาไว้
"เอจ๋า ฟังพี่ก่อน"
ปาริฉัตรสะบัดข้อมือเต็มแรง พนมไม่กล้ายื้อยุดเอาไว้ ต้องตามใจคลายมือออก พอได้รับอิสระ ปาริฉัตรก็วิ่งออกไปอย่างชอกช้ำใจสุดประมาณ
ตอนนี้สายตาของคนที่เคยมองพนมด้วยความชื่นชม กลับกลายเป็นมองอย่างรังเกียจแทนที่ พนมรู้สึกละอายใจ จนแทบแทรกแผ่นดินหนี
"ดาว..ดาวปล่อยมือจากคอพี่ก่อนได้ไหม"
ชายหนุ่มลดเสียงกระซิบว่าเด็กสาวร่านสวาทปิดปากหัวเราะคิกคัก ตอนนี้หน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมายนั้นสำเร็จตามแผนแล้ว ดาวคลายมือออกจากการโอบคอของพนมแต่โดยดี
พนมรีบลุกขึ้น ควักกระเป๋าเงินหยิบแบงก์ร้อยออกมาส่งให้พนักงานเก็บเงิน โดยไม่รอเงินทอนแต่อย่งใด รีบวิ่งออกไปจากร้าน แต่กว่าจะถึงเวลานั้น ชายหนุ่มก็ไม่เห็นภรรยาแสนรักของเขาแม้แต่เงาแล้ว คนที่เดินสวนไปมาขวักไขว่ นี่เขาจะไปตามหาปาริฉัตรจากจุดไหนกัน?
พนมยืนคอตก ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือด ขณะที่ดาวเดินเข้ามากอดแขนเขา ออดอ้อนฉอเลาะ
"น่า เราไปหาที่เงียบๆ คุยกันดีกว่า ดาวคิดทึ้งคิดถึงพี่พนม"
ชายหนุ่มซึ่งเหมือนคนที่ไร้จิตวิญญาณไปโดยพลัน ถูกเด็กสาวร่านโลกีย์เดินกอดแขนพาออกไปจากบริเวณนั้น
วันนั้นปาริฉัตรรีบขับรถกลับบ้าน เธอหลบหน้าพวกคนงาน วิ่งขึ้นไปบนห้องนอนเก็บตัวเงียบ คุณชิด กับคุณปองรักเผอิญไปทำธุระต่างประเทศพอดีช่วงนี้ จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นความผิดปกติของหญิงสาว
จนกระทั่งตกเย็นปรีณาที่กลับบ้านโดยการนั่งแทกซี่ เด็กสาวฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ พอแลเห็นรถซีวิคสีเหลืองสดจอดอยู่ในโรงเก็บ เธอก็รีบวิ่งขึ้นไปหาพี่สาวด้วยความร่าเริง เคาะประตู
"พี่เอ พี่เอ นี่บีเอง เปิดประตูหน่อยซี"
เงียบ ไม่มีเสียงตอบจากปาริฉัตร ปรีณาเคาะประตูอีกคราวนี้ เด็กสาวเคาะแรงขึ้น ถี่ ถี่
"พี่เอ พี่เอ เปิดประตูให้บีหน่อยค่ะ"
พักหนึ่งก็มีเสียงเครือ อู้ อี้ ของปาริฉัตรดังแว่วมา
"พี่ปวดหัว อยากนอน บีอย่าเพิ่งกวนพี่ตอนนี้เลยนะ"
ปรีณาขมวดคิ้วเรียวงามของเธอ เด็กสาวเอะใจ มันจะต้องมีอะไรผิดปกติขึ้นอย่างแน่นอน เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรไปหาพนมอย่างร้อนใจ
เสียงสัญญาณของโทรศัพท์มือถือพนมดังขึ้นโดยไม่มีคนรับ ปรีณารอจนอ่อนใจ ก็ได้แต่ฝากข้อความให้พนมโทรกลับหาเธอด่วน
"ไม่รู้พี่หนึ่งไปพูดอีท่าไหน ตอนที่เราเห็นอยู่ยังดีๆ เลยนี่หน่า ทำไมพี่เอร้องไห้กลับมาอย่างนี้ โธ่ พี่หนึ่งนะ พี่หนึ่ง บีอุตส่าห์ช่วยถึงขนาดนี้แล้ว"
ปรีณาคิดถึงพี่เขยของเธออย่างขัดใจ เด็กสาวผุดลุกผุดนั่งอย่างร้อนรน แต่ก็ไม่ได้รับโทรศัพท์กลับมาจากพนมเลย พอเธอขึ้นไปเคาะประตูห้องพี่สาวให้ลงมารับประทานอาหารเย็น ก็ได้ยินแค่เสียงปฏิเสธดังแว่วมาเท่านั้น
วันรุ่งขึ้นเป็นวันจันทร์ ปรีณาออกไปเรียนหนังสือตามปกติแต่เช้า ขณะที่พนมเดินทางมาหาปาริฉัตรที่บ้าน เนื่องเพราะคุณชิดกับคุณปองรักไม่อยู่ไปต่างประเทศ ถึงแม้ตลอดทั้งวันปาริฉัตรจะบอกให้แม่บ้านที่ขึ้นไปตาม ว่าเธอจะไม่ยอมลงมาพบกับเขา ชายหนุ่มก็ยังคงทู่ซี้นั่งคอยอยู่ที่ห้องรับแขกจนกระทั่งเย็นและปรีณากลับมา บ้าน
เด็กสาวพอเห็นพี่เขย ก็ปราดเข้าไปหา ถามด้วยใบหน้าเอาเรื่อง
"นี่ พี่หนึ่ง พี่หนึ่งทำอะไรน่ะ พี่เอเก็บตัวเงียบ เอาแต่ร้องไห้ในห้อง"
พนมหน้าซีดเซียว ไม่กล้าสู้หน้าน้องเมียตัวเอง อ้ำอึ้งแบบน้ำท่วมปาก ไม่มีความกล้าที่ยอมรับความจริง
"พี่..พี่.."
ปรีณาน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ เพราะดูจากลักษณะของพนม ก็รู้ว่าพี่เขยของเธอต้องทำผิดอะไรสักอย่าง
"พี่หนึ่ง..พี่หนึ่ง สัญญากับบีแล้วไง ว่าจะไม่ทำให้พี่เอเสียใจอีก"
เด็กสาวต่อว่าเสียงเครือ พนมคอตก นั่งห่อเหี่ยว ไม่รู้จะพูดอะไรดีนอกจากพึมพำ
"บี..พี่ผิดไปแล้ว"
ปรีณานึกน้อยใจแทนพี่สาวอันเป็นสุดที่รักยิ่งของเธอ ทำให้นึกพาลโมโหพี่เขย เชิดหน้าขึ้นกล่าวเสียงปั้นปึ่งอย่างที่ไม่เคยทำกับชายหนุ่มมาก่อน
"บีว่า พี่หนึ่งกลับไปก่อนเถอะ ตอนนี้พี่เอเขาคงไม่ลงมาพบกับพี่หนึ่งแน่ๆ"
พนมใจหาย กระซิบถามอย่างคนสิ้นไร้หนทาง
"บีจ๋า น้องบีไม่ช่วยพี่หนึ่งแล้วหรือ"
ปรีณาเห็นหน้าของพนมแล้วก็ใจอ่อน สุ้มเสียงก็เลยอ่อนตาม
"เอาเถอะค่ะ พี่หนึ่งกลับไปก่อน บีจะช่วยดูให้ จะพยายามเท่าที่บีจะพอทำได้ก็แล้วกันค่ะ"
พนมถอนหายใจยาว เดินคอตกกลับออกไป
วันถัดมา เริงชัยหนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ก็ได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาวที่ตัวเองใฝ่ฝันอย่างไม่คาดหมาย
"คุณเริงชัยหรือคะ นี่เอพูดค่ะ"
"โอ คุณเอหรือครับ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์กล่าวเสียงนุ่มนวล เสียงของปาริฉัตรดังแผ่วสะท้านมาจากอีกด้านหนึ่ง
"เอ...เอ อยากไปอยู่ในที่เงียบๆ ต่างจังหวัดสักพัก คุณเริงชัยเคยชวนเอเอาไว้ ยังยินดีต้อนรับเอหรือเปล่าคะ"
เริงชัยเบิกตาโพลงด้วยความยินดีปรีดาจนเหลือจะกล่าว พยายามระงับความตื่นเต้นในน้ำเสียงอย่างสุดความสามารถ
"แน่นอน..แน่นอนครับ คุณเอพร้อมเมื่อไร ผมจะไปรับทันที"
"วันนี้ได้ไหมคะ เออยากไปเร็วๆ"
ปาริฉัตรกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย เธอไม่ต้องการอยู่บ้านให้พนมแวะเวียนเข้ามาหา ตอนนี้แม้กระทั่งน้องสาวเธอก็ไม่อยากเจอหน้าด้วย
เริงชัยยิ้มอย่างกระหยิ่มยินดี
"ได้สิครับ แน่นอน ผมไปรับคุณเอ เดี๋ยวนี้เลย คงจะไปถึงในราวชั่วโมงหนึ่งครับ"
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ วางหูแล้วกดเบอร์ภายในไปถึงเรณูเลขาหน้าห้อง
"คุณเรณู ผมมีธุระส่วนตัวต้องไปจัดการด่วน คงจะไปสักหลายวันนะ มีเรื่องอะไรคุณก็รับเรื่องและบันทึกเอาไว้ก่อน"
"ค่ะ จะให้ดิฉันติดต่อนายสอนให้เตรียมรถให้ท่านเลยไหมคะ"
เรณูถามอย่างนอบน้อม เริงชัยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"ไม่ต้อง ไม่ต้อง ผมจะขับไปเอง แค่นี้แหล่ะ ขอบคุณมาก"
เมื่อวางหูแล้ว หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ ก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาดังๆ เต็มเสียง พึมพำกับตัวเองอย่างปราโมทย์
"หนูเอจ๋า ไม่ต้องกลัวจ้ะ แล้วอาเริงชัยคนนี้จะช่วยปลอบขวัญให้หนูเอลืมความทุกข์ทั้งหมดเอง ฮ่ะ ฮ่ะ"
วันเดียวกันนั้น ปรีณาที่นั่งทานอาหารกลางวันอยู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่สาว เธอรีบถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
"พี่เอหรือคะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ"
เสียงแผ่วๆ ของปาริฉัตรดังตอบมา
"ไม่มีอะไร พี่เพียงแต่โทรมาบอกบีว่าพี่จะไปต่างจังหวัดสักสองสามวัน บีไม่ต้องห่วง"
ปรีณาเบิกตากลมโตกว้าง รีบถาม
"พี่เอไปไหนกัน ไปกับใครคะ บอกบีด้วย"
"ไม่..ไม่เป็นไร บีไม่ต้องห่วง พี่ไปกับเพื่อนพี่เอง แค่นี้นะจ๊ะ พี่จะวางหูแล้ว"
"เดี๋ยว..เดี๋ยวค่ะ ให้บีกลับไปบ้านช่วยพี่เอจัดกระเป๋าก็แล้วกันนะคะ"
ปรีณาพยายามตื้อถ่วงเวลาเพราะต้องการไปหาพบหน้าพี่สาวก่อน
เสียงของปาริฉัตรเงียบไปครู่หนึ่งก็ดังตอบมา
"ตอนนี้พี่ออกมาจากบ้านแล้ว แค่นี้นะจ๊ะ พี่ฝากดูแลบ้านด้วย"
จากนั้นสัญญาณก็ขาดไป เด็กสาวทำหน้าเบ้ ถอนหายใจยาว ยกมือขยี้ผมทรงบ๊อบสั้นตัวเองอย่างขัดใจ
"โอ๊ย กลุ้มใจจัง"
เธอคิดคำนึงอย่างว้าวุ่น เด็กสาวรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไรพิกล แต่ก็บอกกับตัวเองไม่ถูกว่าคืออะไร
ตกเย็นดาวมาหาปรีณาตามปกติ พอดาวแลเห็นใบหน้าของปรีณาหม่นๆ ก็ทำเป็นทักเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
"บีเป็นอะไรจ๊ะ ไม่สบายหรือเปล่า ถ้ายังไงวันนี้ดาวกลับไปก่อนก็ได้นะ"
ปรีณารีบสั่นศีรษะ พยายมยิ้มให้อีกฝ่าย พลางว่า
"ไม่เป็นไรจ้ะ เพียงแต่บีรู้สึกเหนื่อยๆ หน่อยเดียวเท่านั้นเอง"
เด็กสาวร่านสวาท จ้องมองไปยังใบหน้าสวยใสของปรีณาอย่างสุดอิจฉา ต่อหน้าปั้นรอยยิ้มหวานชักชวน
"อุ๊ย ถ้าอย่างนั้น เย็นนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยดีไหมจ๊ะ ไปติวหนังสือกันที่บ้านดาวดีกว่า"
ปรีณานิ่งคิดอยู่อึดใจ ความซื่อไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะมีความคิดร้ายอะไรกับเธอ ประกอบกับรู้สึกเบื่อที่จะต้องกลับไปบ้านที่พี่สาวออกเดินทางไปต่างจังหวัด แล้ว ทำให้เด็กสาวแสนสวยผงกศีรษะรับคำชวนของดาว
"ก็ได้จ้ะ ดาวรอบีเก็บของหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวบีจะโทรไปบอกคนที่บ้านด้วยว่าบีอาจจะกลับดึกหน่อย"
ดาวยิ้มออกมาอย่างสมใจ ทำเป็นพูดว่า
"ไม่ต้องห่วงนะบี ลุงเริงชัยทิ้งให้นายสอนอยู่รับใช้พวกเรา นายสอนจะขับรถพาบีไปส่งถึงที่บ้านเอง"
ปรีณายิ้มรับคำ ก่อนจะผละไปเก็บของ และโทรศัพท์ไปบอกคนงานที่บ้านของเธอว่าคืนนี้จะกลับดึกหน่อย เพราะไปติวหนังสือให้เพื่อนที่บ้าน
นายสอนที่นั่งรออยู่ในรถ ควยกระดกขึ้นมาทันที เมื่อมันมองเห็นปรีณาแต่ไกล คนขับรถจอมเจ้าเล่ห์พยายามระงับสติอารมณ์ ขณะที่ทำทีออกไปเปิดประตูรับปรีณากับดาวอย่างนอบน้อม
ดาวทำเป็นสั่งหลังจากที่เธอกับปรีณาเข้ามานั่งภายในตอนหลังเรียบร้อยแล้ว
"นายสอนขับไปบ้านเลย บีเขาจะไปติวหนังสือดาวที่บ้าน"
"ครับคุณดาว"
นายสอนรับคำอย่างนอบน้อย ขณะเคลื่อนรถออกไปด้วยความกระสันซ่าน
เป้าหมายที่นายสอนขับรถไป ก็คือบ้านพักหลังเดิมที่เริงชัยเคยใช้เป็นสถานที่ข่มขืนปาริฉัตรอย่างชั่วช้ามาแล้วนั่นเอง
อา มาคืนนี้ บ้านหลังเดียวกัน กำลังถูกใช้เป็นสถานที่จัดการกับเหยื่อสาวแสนสวย ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวร่วมสายโลหิตของปาริฉัตรอีกครั้ง
นายแจ้งตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์เปิดประตูรับรถที่ลูกชายของตนเองขับเข้ามา สายตาของตาเฒ่าที่จับจ้องไปยังเรือนร่างของปรีณาที่ก้าวออกมาจากรถนั้นเต็ม ไปด้วยความหื่นกระหาย
"ฮิ ฮิ ไอ้สอนมันตาถึง คุณหนูบีนี่ สวยน่ารักน่าเอ็นดูอย่างกับเจ้าหญิงน้อยๆ"
ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ ที่ชื่นชอบในการได้กระเด้าเย็ดเด็กสาวๆ เหมือนกับลูกชาย เขม้นมองไปตามผิวกายอันขาวผ่องตามช่วงคอ ช่วงแขน รวมถึงช่วงขาที่พ้นออกมาจากร่มผ้าชุดนักเรียนที่ปรีณาสวมใส่แล้วแลบลิ้นเลีย ปากอย่างกระหาย ขณะที่ปรีณาไม่ทันสังเกตเพราะดาวพาเดินเข้าไปในบ้าน จอมเจ้าเล่ห์สองพ่อลูกก็ยักคิ้วให้แก่กันอย่างรู้เชิง
ในเวลาเดียวกันนั้น เริงชัยกำลังนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับหญิงสาวแสนสวยที่เข้าคลั่งไคล้ใฝ่ฝันใน ร้านอาหารของโรงแรมห้าดาว ริมชายหาดหัวหิน บนโต๊ะที่จุดไว้ด้วยแสงเทียนสลัวๆ นั้น ขับให้วงหน้าของปาริฉัตรที่ถึงแม้เต็มไปด้วยความหม่นหมองให้ดูงดงามละลานตา ก่อกวนอารมณ์ของเริงชัยจนอกแทบระเบิดตายด้วยความเสน่หา
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ พาปาริฉัตรไปพักที่รีสอร์ทสุดหรูของเขา ความเจนจัดรู้ดีว่าอะไรควรทำไม่ทำ เขาไม่ต้องการสร้างความแตกตื่นให้เหยื่ออันโอชะที่ส่งตัวเองเข้ามาในเงื้อม มือของเขา มาถึงตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนอะไรแล้ว เริงชัยจึงเปิดบ้านพักสองหลัง แสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มที่ ไม่ต้องการให้เกิดคำครหา ว่าพักอยู่บ้านหลังเดียวกับปาริฉัตร ทำให้แววตาที่หญิงสาวมองมายังหนุ่มใหญ่ นั้นก็เต็มไปด้วยความขอบคุณ และเชื่อใจ
หลังจากเก็บข้าวของ และให้เวลาปาริฉัตรได้พักผ่อนเป็นส่วนตัวช่วงเวลาหนึ่งแล้ว เริงชัยก็ชวนหญิงสาวออกไปเดินเล่น
เริงชัยแอบกระหยิ่มใจ เมื่อเขาสังเกตเห็นสายตาของชายหนุ่มวัยต่างๆ ทั้งคนไทยและต่างประเทศ พาจับจ้องไปยังสตรีที่เดินข้างกายเขาอย่างชื่นชม ความรู้สึกนั้นทำให้หนุ่มใหญ่เดินกร่าง แสดงออกกลายๆ ถึงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหญิงสาว ซึ่งปาริฉัตรเองในยามที่กำลังใจลอยครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆ อย่างสับสน ไม่ทันสังเกตอากัปกิริยานั้น
ตอนหนึ่งเริงชัยถามปาริฉัตรว่า
"คุณเอ เตรียมชุดอาบน้ำมาหรือเปล่าครับ ช่วงเวลานี้อากาศกำลังสบาย น่าเล่นน้ำมาก"
ปาริฉัตรส่ายศีรษะช้าๆ กล่าวแผ่วๆ
"เปล่าค่ะ เอ..เอ..ไม่ได้ตั้งใจจะมาเล่นน้ำ"
เริงชัยหัวเราะ กล่าวเสียงร่าเริง
"โอ๊ย ไม่ได้ๆ มาถึงที่นี้ แล้วไม่เล่นน้ำได้ยังไง ไปครับ ผมจะพาไปเลือกซื้อสักชุด"
ความจริงปาริฉัตรต้องการอยู่เงียบๆ ไม่ได้ต้องการมาเพื่อนการละเล่นใดๆ แต่ทุกอย่างที่เริงชัยทำให้เธอในวันนี้ มีหรือที่หญิงสาวจะปฏิเสธได้?
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ พาหญิงสาวไปยังร้านขายเสื้อผ้าสุดหรูในโรงแรม เริงชัยแลเห็นชุดว่ายน้ำแบบบิกินนี่สีสดใสที่แขวนอยู่ตามราว พอมโนภาพแลเห็นปาริฉัตรในชุดเหล่านี้ แล้วควยต้องโป่งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คะยั้นคะยอให้หญิงสาวเลือกซื้อใส่
ปาริฉัตรหน้าแดงเมื่อมองดูความโป๊ของชุดเหล่านั้น หญิงสาวพิจารณาเนื้อผ้าสองชิ้นนั้นมันเล็กมากปกปิดผิวกายบริเวณของสงวนไว้ นิดเดียวเอง เธอขนลุก ส่ายศีรษะปฏิเสธแข็งขัน
"ไม่..ไม่ค่ะ เอไม่กล้าใส่ชุดพวกนี้หรอกค่ะ"
เริงชัยซ่อนยิ้มไว้ในหน้า ทำเป็นพูดเหมือนคนผ่านโลกมามาก
"โธ่ คุณเออย่ามัวไปกังวลกับสายตาใครเลยครับ ในช่วงเวลาที่คุณเออาจไม่ค่อยสบายใจแบบนี้ ผมแนะนำให้คุณเอลองปลดปล่อยอารมณ์ซะหน่อย มันจะช่วยได้นะครับ"
คำพูดของเริงชัยจี้ใจดำปาริฉัตร หญิงสาวผู้รักนวลสงวนตัว คิดอยู่เสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเธอนั้น สมควรมอบให้กับสามีผู้เป็นที่รักแต่เพียงผู้เดียว มาบัดนี้ อารมณ์หนึ่งซึ่งต้องการประชดประชันทำให้เธอยิ้มออกมา ผงกศีรษะเลือกชุดอาบน้ำแบบทูพีชสุดเซ็กซี่สีฟ้าสดใสขึ้นมาตัวหนึ่ง
เริงชัยยิ้มกระหยิ่ม รับไปชำระเงิน จากนั้นยังพาหญิงสาวไปเลือกซื้อของอีกหลายอย่างอาทิ เช่นเสื้อคลุมอาบน้ำ ครีมทาผิว หมวกสาน แว่นกันแดด เป็นต้น ซึ่งปาริฉัตรเกรงใจไม่กล้าปฏิเสธ ได้แต่พนมมือไหว้ขอบคุณความเอื้ออารีของเริงชัย
คืนนั้นหลังจากรับประทานเสร็จ เริงชัยก็พาหญิงสาวกับไปที่พัก พร้อมกับชักชวน
"คืนนี้อากาศกำลังอุ่นสบาย คุณเอว่ายน้ำเล่นหน่อยดีไหมครับ ที่รีสอร์ทผมมีสระน้ำอุ่นไว้บริการด้วย"
ปาริฉัตรครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย ไม่ต้องการขัดใจเขาก็ผงกศีรษะรับคำ
หญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อมองเห็นตัวเองในกระจก หลังจากผลัดเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำแบบทูพีชที่เริงชัยเพิ่งซื้อให้วันนี้ ถึงแม้จะมีเธอมองเห็นอยู่คนเดียว แต่ด้วยความอายหญิงสาวรีบซ่อนตัวเองอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำทันที
พอดีกับเวลาที่เริงชัยเข้ามาเคาะประตูเรียก
หนุ่มใหญ่ยิ้มกว้างขวาง ในมือชูน้ำส้มเย็นๆ สองขวด
"ดื่มอะไรเย็นๆ กันสักหน่อย เดี๋ยวค่อยไปเล่นน้ำกันนะครับ"
ปาริฉัตรยิ้มอ่อนๆ ไม่ว่าอะไร ก็เดินไปนั่งที่โซฟารับแขก เริงชัยนั่งอีกด้าน เทน้ำส้มลงแก้วยื่นให้หญิงสาว
เริงชัยซ่อนยิ้มเอาไว้ในหน้าอย่างมิดชิด ขณะที่มองหญิงสาวที่เขาแทบจะคลั่งใจตายเพราะความหลงใหล ดื่มน้ำส้มแก้วนั้นลงไปเรื่อยๆ เกือบหมด ขณะที่ทำเป็นชวนคุยไปในเรื่องต่างๆ
จวบจนหนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ แลเห็นใบหน้างดงามอ่อนหวานของปาริฉัตรนั้นเริ่มมีสีแดงฉีดขึ้นมา เขาก็ลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ เรือนร่างที่สุดแสนจะงดงามราวกับเทวดาบรรจงสร้างของหญิงสาว
ปาริฉัตรขยับตัวหนีห่างออกไปเล็กน้อย ใบหน้าของเธอร้อนวูบวาบ ความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นบริเวณท้องน้อย มันทำให้หญิงสาวรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
เริงชัยเบียดกระแซะตาม ยื่นหน้าไปกระซิบข้างใบหูขาวผ่องนั้น
"คุณเอสวยเหลือเกิน คุณรู้ตัวไหม"
ความรู้สึกเสียวซ่านบางอย่างแปลบขึ้นมา จนทำให้ปาริฉัตรตัวอ่อน ลมหายใจของเธอกระชั้นถี่ขึ้น อา นี่เธอเป็นอะไรไป?
มือหยาบของเริงชัยตอนนั้นเอื้อมไปกระตุกนิดเดียว สายรัดชุดคลุมของปาริฉัตรก็หลุดออก เผยให้เห็นผิวกายอันขาวผ่องเป็นยองใย มีชุดอาบน้ำสุดเซ็กซี่สีฟ้าปกปิดบนล่างเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ เริงชัยเบิ่งตาจ้องมองไปแทบถลน ควยตุงเด่จนคับเป้า
ปาริฉัตรอุทานออกมาคำหนึ่ง เมื่อมือหยาบของเริงชัยจู่โจมทีเดียว ก็คลึงไปตรงเนินนูนของเธออย่างจัดเจน
นิ้วอันชำนาญของเริงชัยลากไปตามร่องหลืบที่ตอนนั้นมีน้ำเอ่อชุ่มออกมา ปาริฉัตรขาอ่อน อยากจะขยับหนี แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะกระทำได้ดั่งใจนึก ร่างสั่นสะท้านด้วยความรัญจวนใจ เสียงที่เธอพยายามร้องออกมานั้นแผ่วราวกระซิบ
"อย่าค่ะ..อย่า"
อย่างไม่รู้ตัวว่า ชุดเสื้อคลุมผ้าขนหนูนั้นถูกปลดออกไปจากเรือนร่างเธอเมื่อไร ปาริฉัตรรับรู้อีกที ร่างกายที่กึ่งเปลือยที่เหลือเพียงชุดอาบน้ำตัวจิ๋ว ก็ตกอยู่ภายใต้การกอดจูบเฟ้นฟอนของเริงชัยแล้ว
มโนสติเตือนว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ความเสียวซ่านรัญจวน ความรู้สึกบางอย่างที่ต้องการปลดปล่อย มันพลุ่งพล่านขึ้นมาราวกับน้ำบ่าทำนบทลาย ทำให้หญิงสาวต้องแอ่นตัวขึ้นรับลิ้นของเริงชัยที่กำลังลากโลมเลียอยู่ตรง หน้าท้องขาวผ่องราบเรียบไร้ไขมันส่วนเกินของเธออย่างลืมตัวพร้อมกับส่งเสียง ครางออกมา
"ซีดส์..ซีดส์..อาา..ซีดส์.."
เริงชัยยิ้มออกมาอย่างกระหยิ่มยินดี รีบฉกฉวยโอกาสที่หญิงสาวกำลังเพลิด ไม่ยอมให้เหยื่ออันโอชะ ดิ้นหลุดมือเขาไปได้อีกต่อไป ร่างแบบบางที่แอ่นสุดๆ ช่วยให้เขาอ้อมมือไปด้านหลัง ปลดเงื่อนที่ผูกอยู่ด้านหลังยกทรงตัวจิ๋วออกไปอย่างง่ายดาย จากนั้นสองเต้าที่กลมเต่งได้รูป ปลายงามงอนเป็นสีชมพูเรื่อ ก็ตกอยู่ภายใต้การโลมเลียด้วยลิ้นที่ชำนิชำนาญในปลุกปั่นอารมณ์หญิง จนสติของปาริฉัตรกระเจิงไปคนละทิศละทาง แอ่นอกตูมตั้งของตนเองเสนอให้กับเริงชัยได้ดูดดื่มอย่างอร่อยลิ้น ดังซ๊วบ ซ๊วบ
"ซีดส์...เสียวจังค่ะ...เอเสียวเหลือเกิน...อาาาา"
ปาริฉัตรครางออกมา
หนุ่มใหญ่รุกต่อเนื่องแบบไม่หยุด ขณะที่ปาริฉัตรกำลังรู้สึกเสียวซ่านสุดๆ สะโพกผายของเธอก็แอ่นขึ้นตามแรงยกของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว
พริบตานั้นอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดเรือนร่างอันขาวผ่องงดงามของหญิงสาวก็ถูกเริงชัยครูดเหวี่ยงออกไป
เพรียวขางามสองข้างถูกจับแยกออก เริงชัยที่ทรุดลงไปคุกเข่าเบื้องหน้าหญิงสาว ก็ซุกใบหน้าลงไป ลากลิ้นโลมเลีย ร่องหลืบสวรรค์ที่กำลังเจิ่งนองด้วยน้ำรักจากเรือนร่างเธออย่างอร่อย
ปาริฉัตรอุทานออกมา พยายามผลักใบหน้าของเริงชัยออกไป
"อา..อย่าค่ะ..มันสกปรกออก.."
เริงชัยหัวเราะอย่างกระหยิ่ม กล่าวเสียงหื่นกระหาย
"ใครบอกคุณเอล่ะครับ ตรงกันข้าม มันช่างหอม ช่างหวาน สำหรับผมเหลือเกินครับ"
ว่าแล้วเขาก็ลากลิ้นโลมเลียต่อ ปาริฉัตรที่สุดเสียวซ่าน แบะขาตัวออกห่าง แอ่นสะโพกเสนอสนองการโลมเลียนั้นอย่างสุดแสนจะรัญจวนใจ ส่งเสียงครางไม่ขาดปาก
"ซีดส์...ซีดส์...อืออออ...อาาาาา"
ทั้งนิ้วที่จับกลีบแคมแหวกออก ลิ้นสากที่ดุนไล้ไปตรงติ่งเสียวของเธอ มันสร้างความกระสันซ่านรัญจวนใจให้เกิดขึ้นแก่หญิงสาวอย่างที่ไม่เคยรู้สึก มาก่อน จนร่างแบบบางนั้นกระตุกเร่าๆ อย่างสุดสยิว นิ้วเรียวงามนั้นขยำไปที่หลังศีรษะของเริงชัยกดใบหน้าของเขาให้แนบลงไปกับ โหนกหีของเธอ ซึ่งแอ่นส่ายเสนอเข้าหาเขาอีกทางหนึ่ง
ฝีมือลิ้นโลมเลียชั้นเซียนเรียกพี่ของเริงชัย ในที่สุดก็กระตุ้นต่อมความเสียว ปลุกปั่นอารมณ์จนปาริฉัตรบิดไปบิดมา ส่งเสียงครางดังสะท้าน
"อาาาา..อาาาา...ซีดส์...ซีดส์ .เอ...เสียว..เสียวจัง...จะถึงแล้วค่ะ...อาาาาาาา"
ร่างแบบบางของหญิงสาวกระตุกเฮือกๆ แอ่นสุดๆ เริงชัยสูดดมความหอมจากหลืบสวรรค์นั้นเต็มปอด ใช้มือรั้งไปที่สะโพก บดหน้าของเขาลงไป ลากลิ้นโลมเลียดูดดื่มน้ำสวรรค์ที่ทะลักทะลายออกมาอย่างเอร็ดอร่อยสาแก่ใจ ที่รอคอยมานาน
เมื่ออารมณ์สงบลง ปาริฉัตรก็นั่งตัวสั่นสะท้าน นี่เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปให้กับเริงชัยถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?
หญิงสาวอยากจะนึกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝันตื่นหนึ่ง แต่ทว่าตอนนั้นเริงชัยที่โอบกอดร่างเปลือยของตัวเธออยู่ กำลังจูบซอนไซร้ไปตามซอกคอของเธอ ยืนยันให้ปาริฉัตรรับรู้ว่ามันเป็นความจริงแท้แน่นอน มิใช่แค่ความฝันที่เธออยากให้เป็นไป
"คุณเริงชัยคะ..อย่าค่ะ.."
ปาริฉัตรพยายามดิ้นรน เริงชัยกระซิบ พลางจูบไซร้ไปตามซอกคอขาวผ่อง แก้มนวลใสของหญิงสาวไม่หยุด
"คุณเอจ๋า รู้ไหมว่าผมหลงรักคุณเอมาตั้งนานแล้ว..."
หญิงสาวใจสั่น ความเสียวซ่านระลอกใหม่ปะทุขึ้นมาจากท้องน้อย ยาสวาทที่เริงชัยผสมใส่น้ำส้มให้เธอดื่มนั้นมันรุนแรงกว่าที่เขาเคยผสมให้ พนมดื่มตั้งหลายเท่า
ปาริฉัตรพยายามต่อต้านความเสียวซ่านรัญจวนใจที่พลุ่งพล่านขึ้นมา ส่งเสียงแผ่วสะท้าน
"อย่าค่ะ...เอแต่งงานแล้วนะคะ.."
เริงชัยกระซิบ
"นายพนมเขาเป็นคนเจ้าชู้ ไม่ได้ซื่อตรงอะไรกับคุณเอหรอก เชื่อผมเถอะ"
คำพูดของหนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์นั้นเปรียบเสมือนหอกที่ทิ่มเข้าสู่กลางใจของหญิงสาว ร่างที่พยายามดิ้นรนของเธออ่อนปวกเปียกไปโดยพลัน
หยาดน้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาจากหางตาของปาริฉัตร ร่างแบบบางของเธอ เหมือนแพน้อยที่อยู่ท่ามกลางกระแสคลื่นยักษ์ ทะเลบ้าคลั่ง ความรู้สึกผิด ถูกกลบไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ผสานกับความเสียวซ่านที่ปะทุขึ้นดุจภูเขาไฟระเบิด ในที่สุดลำขาเพรียวของปาริฉัตรก็เผยออก เปิดช่องประตูสวรรค์อ้ารับ หัวถอกบานคล้ำอวบใหญ่ของเริงชัยที่จ่อเข้ามาอย่างกระสันซ่าน
"คุณเอจ๋า ผมเข้าแล้วนะครับ"
เริงชัยกระซิบเสียงหวาน ปาริฉัตรหลับตาพริ้ม กลั้นใจผงกศีรษะ โอบไปที่กลางหลังกำยำของอีกฝ่ายแน่น
ความอวบใหญ่ที่แหวกทะลวงเข้ามาในร่างเธอนั้น สร้างความเจ็บแปลบให้กับปาริฉัตรจนสุดจะทนทาน ร่างแบบบางสะท้านเฮือก ส่งเสียงคราง
"เจ็บค่ะ..คุณเริงชัย..เอ..เจ็บ"
เริงชัยหยุดกระเด้าไว้ก่อน เปลี่ยนไปบดขยี้จูบไปบนริมฝีปากนุ่มนิ่มราวกับกลีบกุหลาบนั้น ซึ่งปาริฉัตรอ้าปากออกรับ พร้อมกับแลกลิ้นจูบกับเริงชัยอย่างเร่าร้อน หญิงสาวครางในลำคอ
"อือ..อือ..."
หนุ่มใหญ่ขยับสะโพกเสือกท่อนควยของเขาครูดเข้าไปในร่องสวรรค์ตีบฟิตนั้นอีก ครั้ง ปาริฉัตรตัวงอส่งเสียงครางออกมา เริงชัยใช้แขนรั้งไปที่ข้อพับหลังหัวเข่าหญิงสาว จับเพรียวขางามนั้นถ่างออกอีก ก่อนอัดสะโพกยัดควยอวบทะลวงเข้าไป สายตาของหนุ่มใหญ่เจ้าเล่ห์ เบิ่งมองไปที่แคมหีขาวใสที่ปลิ้นออกเพื่อขยายตัวรองรับความอวบของควยตัว เองอย่างสะใจ
พอปาริฉัตรบิดตัวด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอ่อนหวานนั้นเหยเกแสดงออกถึงความรู้สึก เริงชัยก็จะสลับด้วยการโลมเลียไปตรงหัวนมงอนงาม ซอนไซร้ไปตามซอกคอขาวผ่อง รวมทั้งการจูบปากแลกลิ้นกับหญิงสาวอย่างดูดดื่มเป็นการปั่นอารมณ์ ในที่สุดด้วยความเจนจัด เขาก็สามารถป้อนควยยักษ์ร่วมฟุตจมหายเข้าไปในร่องสวรรค์ของปาริฉัตรทั้งดุ้น
หญิงสาวหลับตาพริ้ม ขมวดคิ้วเรียวงามมุ่น ของๆ เริงชัยที่สอดเข้ามาในตัวเธอนั้น มันเลยลึกเข้าไปอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน
"อา..มันแน่นจังค่ะ คุณเริงชัย.."
เริงชัยหัวเราะอย่างอิ่มเอม กระซิบที่ข้างหู
"แน่นๆ อย่างนี้แหล่ะ เดี๋ยวเมียรักของผมจะมีความสุขสุดๆ"
ปาริฉัตรหน้าแดงไปกับคำพูดของเขา อา แต่มิใช่เขาพูดถูกหรอกหรือ คนๆ นี้เบื้องหน้าเธอได้เป็นสามีของเธออย่างสมบูรณ์ตามพฤตินัยแล้ว
เริงชัยควงสะโพกบดควยของเขาครูดไปกับผนังเนื้อเยื่ออันอ่อนนุ่มที่ตอดรัด อยู่อย่างแนบแน่น ความเสียวซ่านที่พลุ่งพล่านขึ้นช่วยให้ช่องคลอดของหญิงสาวผลิตน้ำรักออกมา หล่อลื่นอาบลำควยที่รุกล้ำเข้ามา เมื่อเริงชัยค่อยๆ ชักออก แทงเข้าอย่างช้าๆ จนกระทั่งท่อนอวบของหนุ่มใหญ่ก็เป็นฟองฟอด แสดงให้เห็นความสภาพอันเหมาะสมสำหรับการกระเด้าเย็ดแล้ว เริงชัยจอมเจ้าเล่ห์ก็จับเพรียวขางามนั้นขึ้นพาดบ่าหนาของตัวเอง เริ่มส่งแรงกระเด้าควยเข้าใส่ร่องหลืบสวรรค์บรรจงสร้างของปาริฉัตรอย่างหื่น กระหายเมามัน
ความเจ็บปวดในตอนแรกที่ได้รับค่อยๆ ถูกทดแทนด้วยความเสียวซ่านที่ปะทุเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ปาริฉัตรเด้งสะโพกขึ้นรับการเย็ดนั้นอย่างเสียวซ่าน สองมือเปะปะไปตามเบาะที่นั่งของโซฟายาว ส่งเสียงครางครวญอย่างสุดรัญจวนใจ
"อา..อา..ซีดส์...ซีดส์....ซีดส์...อาาาา..เอ..เสียว...เสียวค่ะ..อาาา..จะขาดใจอยู่แล้ว"
เริงชัยแนบใบหน้าลงไปกระซิบ
"เมียรักของผม จะให้ผัวหยุดมั๊ยล่ะจ๊ะ"
ปาริฉัตรหน้าแดง ความเสียวซ่านรัญจวนใจที่พลุ่งขึ้นจับจิต บังคับให้เธอส่ายศีรษะ ส่งเสียงคราง
"ไม่..ไม่ค่ะ..เร็วๆ..เลย..เอ..ทนไม่ไหวแล้ว..."
"ถ้าอย่างนั้นบอกผัวให้ชื่นใจหน่อยสิจ๊ะ ว่าเย็ดเอเร็วๆ เย็ดเอแรงๆ"
เริงชัยส่งเสียงหื่น แกล้งหยุดกระเด้าควยเอาไว้ ปาริฉัตรที่สุดเสียว ต้องการปลดปล่อยตัวเองเต็มที่ แอ่นสะโพกผายขึ้น ส่งเสียงครางออกมา อย่างหมดสิ้นความอาย
"เย็ดเอเร็วๆ เย็ดเอแรงๆ เลยค่ะ..เอต้องการเหลือเกิน..."
เริงชัยหัวเราะลั่น
"ได้เลยจ้ะ เมียจ๋า เมียสุดที่รักของผัว..."
หนุ่มใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ ตะบันควยยักษ์อัดเข้าใส่ร่องหลืบสวรรค์ที่ส่ายร่อนขึ้นรับอย่างเมามัน หักโหม ป๊าบ ป๊าบ
เกมกามอันเร่าร้อนหฤหรรษ์ ดำเนินต่อไปอย่างไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด บนโซฟายาว สองร่างที่บดเบียดกันจนแทบผสานเป็นเนื้อเดียว เสียงครางระงมปนเปกันระหว่างหนึ่งหญิง หนึ่งชาย
ในที่สุดเมื่อความหยุ่นกระชับของร่องหี ทำให้อารมณ์หื่นของเริงชัยพลุ่งพล่านขึ้นอย่างสุดระงับ หนุ่มใหญ่อัดควยกระเด้าหนักถี่ถี่ขึ้น ส่งเสียงร้อง
"เมียจ๋า ผัวจะออกแล้ว"
ปาริฉัตรเองก็ครางออกอย่างสุดจะข่มกลั้น
"เอ...เอ..ก็จะเสร็จเหมือนกันค่ะ เร็วๆ..เลย"
เริงชัยแผดร้องออกมาดังลั่น พร้อมกับตะบันควยยักษ์บดลงไปบนโหนกหีที่แอ่นสนอง ปาริฉัตรที่จิกเล็กไปบนหลังกำยำของอีกฝ่าย ก็ส่งเสียงร้องออกมาสุดเสียงไม่แพ้กัน ร่องหีของเธอตอดรัด รับกับอาการขมิบพ่นน้ำเชื้อของควยอวบ เริงชัยวนเวียนกระแทกรีดน้ำกามออกไปราดรดช่องคลอดของหญิงสาวจนเต็มอิ่ม ก่อนจะฟุบตัวหอบไปบนเรือนร่างขาวผ่องนุ่มนิ่มของปาริฉัตรที่ชุ่มไปด้วยหยาด เหงื่อจนเป็นมันปลาบไปทั้งตัว
เริงหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย หนุ่มใหญ่ที่ร่างกายล่อนจ้อนทิ้งตัวนั่งเบียดแนบชิดกับตัวปาริฉัตร ตระคองกอดหญิงสาวด้วยอากัปกิริยาที่ถือสิทธิ์เหนือเรือนร่างที่งดงามแบบาง นั้นอย่างเริงใจ ผิวกายอุ่นละเอียดเนียนนุ่มที่เขาได้เสียดสีสัมผัส มันทำให้ควยใหญ่ที่เพิ่งกระฉูดน้ำเชื้อเข้าใส่ร่างกายปาริฉัตรมาหยกๆ เริ่มกระดกแข็งขึ้นอีกครั้ง
อา เมื่อเทียบกับครั้งที่เขาข่มขืนเธอในสภาพสลบไสลไม่ได้สติในวันนั้น คืนนี้ปาริฉัตรได้มอบความดื่มด่ำ หอมหวาน ให้กับเขาได้เสพสมอย่างอิ่มเอมสาสมแก่ใจอย่างมากมายไปกว่าหลายเท่าตัวนัก
เริงชัยควานจูบไปตามซอกคอขาวผ่องอย่างกระหาย แม้ว่าทุกตารางนิ้วบนเรือนกายของปาริฉัตรถูกเขาเฟ้นฟอนไปแล้วอย่างเต็มอิ่ม แต่ความงดงามเนียนนุ่มนั้นก็ยังทำให้เขาใหลหลงคลั่งไคล้ต้องการอยู่อย่างไม่ สร่างซาเลยแม้แต่น้อย
ปาริฉัตรพยายามเบนหน้าหลบการพรมจูบของอีกฝ่ายที่รุกเร้ามาตามพวงแก้มของเธอ หญิงสาวส่งเสียงครางแผ่วสะท้าน
"อย่าค่ะ..คุณเริงชัย"
หนุ่มใหญ่หัวเราะกระหยิ่ม รุกเร้าควานจูบต่อไม่สนใจต่อคำพูด หรือกิริยาปกป้องหลีกหนีของปาริฉัตรเลย
"ทำไมล่ะจ๊ะ คุณเอที่รัก..."
เริงชัยพึมพำเสียงกระเส่าอู้อี้ ขณะที่เขาใช้กำลังบังคับบดขยี้จูบลงไปบนริมฝีปากบางงามนั้นจนได้ ขณะที่ปาริฉัตรสะอื้นไห้ หยาดน้ำใสๆ ไหลรินลงจากหางตาของเธอ
เมื่อเพลิงสวาทที่มอดซาลงไปบ้าง ทำให้มโนธรรมอันเป็นพื้นฐานประจำใจของหญิงสาว มีกำลังส่งขึ้นมาเตือนสติอีกครั้ง ปาริฉัตรส่งเสียงแผ่ว
"คุณเริงชัยคะ..เราทำไม่ถูก..มันผิดศีลธรรมนะคะ..."
"แต่ผมอดใจไม่อยู่จริงๆ ความรักที่ผมมีต่อคุณเอมันล้นเหลือเกินกว่าที่ผมจะห้ามใจอีกต่อไป."
หนุ่มใหญ่ทอดเสียงนุ่ม ขณะที่ปากไม่เคลื่อนห่างจากการพรมจูบไปทั่ววงหน้างดงามนั้นเลย
"แต่..แต่..มันไม่ถูก...อา..อย่าค่ะ"
คำพูดที่เตรียมจะแสดงออกทักท้วงของปาริฉัตรถูกระงับไปโดยพลัน เปลี่ยนเป็นเสียงครางออกมาเสียวสะท้านแทนที่ เมื่อนิ้วมืออันจัดเจนของเริงชัยเริ่มลูบไล้ลงไปบนร่องหลืบของเธอที่เปียก ชุ่มไปด้วยน้ำรักของตัวหญิงสาวเองและน้ำกามของเขาอีกครั้ง

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สงสารผัว