วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คาวสวาท กามโลกีย์ 4

(คาวสวาท กามโลกีย์4)
เมื่อไรที่เด็กสาวหวนนึกไปถึงมือของเฒ่าแจ้งที่ลูบคลึงไปบนของสงวนส่วนตัว ของเธอ ปรีณาก็ขนลุกเกรียวด้วยความสะอิดสะเอียนที่พลุ่งขึ้นมาจับใจ ตัวสั่นสะท้าน นอนขดกายเป็นก้อนกลมราวกับลูก

แมวน้อย
"ถ้าใครรู้เข้า เราจะเอาหน้าไปไว้ไหน คุณพ่อคุณแม่ กับพี่เอถ้ารู้ความจริงคงเสียใจ และผิดหวังในตัวเราอย่างมาก"
ปรีณาคร่ำครวญในใจอย่างโหยไห้ น้ำตาใสไหลรินออกมาตลอดเวลาจนชุ่มหมอน จนเกือบรุ่งสางเธอจึงค่อยม่อยหลับไปโดยมีคราบน้ำตาเปื้อนไปตามพวงแก้มใสเป็น สาย
เพราะกว่าจะนอนก็ดึกมากแล้ว ปรีณาจึงตื่นสายเพราะเสียงเคาะประตูจากสายใจแม่บ้านวัยกลางคน
"คุณบีคะ คุณบี ตื่นเถอะค่ะสายแล้ว"
ปรีณาสะดุ้งตื่น มองไปที่นาฬิกาพบว่าประมาณโมงหนึ่งแล้ว ใจหายวาบ รีบส่งเสียงตอบไป
"ค่ะ ค่ะ บีตื่นแล้ว"
เด็กสาวรีบเข้าห้องน้ำทำธุระ และอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแต่งชุดนักเรียนเดินลงมาจากชั้นบน สายใจแลเห็นคุณบีที่น่ารักของหล่อนแล้วมีใบหน้าเป็นห่วงเป็นใยขึ้นมา เพราะวงหน้าที่ทุกวันจะแจ่มใส

น่ารักประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่วันนี้กลับโรยๆ ขอบตากลมโตนั้นช้ำเป็นวง รอยยิ้มที่ทักทายเธอก็ฝืนปั้นอย่างเห็นได้ชัด
"อุ๊ย คุณบีเป็นอะไรไปรึเปล่าคะเนี่ย หน้าตาหมองเชียว"
สายใจถามพลางเดินเข้าไปลูบหลังลูบหน้าเด็กสาว ซึ่งทั้งปรีณาและปาริฉัตรนั้นเธอเห็นและช่วยเลี้ยงดูมาแต่แบเบาะ รักใคร่เอ็นดูสองพี่น้องราวกับลูกในไส้
ปรีณาฝืนทนกลั้นน้ำตาที่คอยจะเอ่อไหลออกมาตลอด พยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นปกติ
"ไม่..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้าสายใจ บี...บี..แค่ปวดหัว และนอนไม่ค่อยหลับเมื่อคืน"
สายใจยกมือไปอังที่หน้าผากนูนขาว พบว่าตัวไม่ร้อนก็ค่อยคลายใจ ฉุดมือเล็กๆ ของปรีณาไปที่ห้องอาหาร
"ทานข้าวต้มร้อนๆ เสียหน่อยแล้วกัน แล้วทานยา ถ้าปวดหัวมากพักเรียนสักวันก็ได้นะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ บีทานยาแล้วคงดีขึ้น บีไปเรียนดีกว่า ใกล้สอบแล้วด้วย"
ปรีณาว่า สายใจกุลีกุจอตักข้าวต้ม และเลื่อนกับให้กับเด็กสาว แต่ปรีณาฝืนรับประทานไปได้ไม่กี่คำก็รวบช้อน ทานน้ำ
"อะไรกันทานอย่างกับแมวดม"
แม่บ้านอุทาน แต่ก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้ทานมากไปกว่านั้น ส่งยาแก้ปวดหัวให้ปรีณาสองเม็ด ซึ่งเด็กสาวฝืนยิ้ม กล่าวขอบคุณ รับมาทานพร้อมกับดื่มน้ำตามลงไป
จากนั้นเด็กสาวแสนสวยก็เดินออกไปจากห้องอาหาร คว้ากระเป๋านักเรียน เดินออกไปนอกบ้าน
ขณะที่ปรีณาเดินใจลอย คิดอะไรไปต่างๆ นาๆ อย่างว้าวุ่นใจ ไปยัง ณ จุดที่เธอไปรอรถแทกซี่ทุกวัน ก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาเทียบใกล้ๆ พร้อมกับเสียงทักทาย
"น้องบีขึ้นรถสิ ผมจะไปส่ง"
ปรีณาสะดุ้งสุดตัว พอเห็นเป็นนายสอนที่ใบหน้าของเขาแสดงการโลมเลีย แววตานั้นไม่ต่างอะไรกับแววตาที่น่ารังเกียจของนายแจ้งเมื่อคืนเลย ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักของเด็กสาวก็ซีดเผือด ขยับกายจะวิ่ง

หนีออกไป แต่นายสอนร้องเรียกห้าม
"อย่าเพิ่งหนีไปไหนซีน้องบี พี่สอนมีอะไรให้น้องบีดูหน่อย"
นายสอนว่าพร้อมกับหันกล้องถ่ายวีดีโอมือซึ่งสามารถเล่นวีดีโอจากเทปได้ ให้ปรีณาได้เห็น ภาพที่ปราฏในจอนั้น ทำให้ปรีณาเข่าอ่อน นัยน์ตาสวยกลมโตนั้นเบิ่งจ้องไปราวกับถูกมนต์สะกด หยาดน้ำตาใส

ไหลรินออกมาเป็นทาง
ที่แท้ นายสอนที่นอนงุ่นง่านเงี่ยนทั้งคืน จนรุ่งเช้าอดรนทนไม่ไหว ด้วยความกระสันอย่างที่มันอดใจไม่อยู่ แอบเอาเทปที่บันทึกภาพเมื่อคืน หลบออกมาโดยไม่ให้เฒ่าแจ้งรู้ตัว แล้วรีบขับรถมาซุ่มรอคอย

เวลาปรีณาออกจากบ้านไปเรียนหนังสือ
คนขับรถเจ้าเล่ห์ หัวเราะ ฮิ ฮะ เมื่อแลเห็นอากัปกิริยาของเด็กสาวที่ตนเองคลั่งแทบจะอกแตกตาย นายสอนเอื้อมมือไปเปิดประตูด้านข้างคนขับออก กล่าวเสียงกระเส่า
"น้องบีเป็นคนฉลาด คงจะรู้ใช่ไหมจ๊ะ ว่าต้องทำยังไง"
ปรีณาน้ำตาไหลพราก แข้งขาอ่อน ยืนอ้ำๆ อึ้งๆ อย่างหวาดหวั่นขวัญผวา แต่ก็ไม่รู้จะหาทางออกอะไรให้กับตัวเองได้ ในที่สุดก็จำใจต้องเดินเข้าไปนั่งเคียงข้างนายสอน ซึ่งเอื้อมมือมาปิดประตูดังโครม

ก่อนจะออกรถไปอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางการจราจรที่เริ่มหนาแน่น รถเบ๊นซ์คันหรูนั้นหาได้มุ่งตรงไปยังที่ตั้งของโรงเรียนที่ปรีณาเรียนอยู่ไม่
อา จะมีใครทราบว่า รถซึ่งติดฟิลม์กรองแสงหนาทึบคันหนึ่งที่เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด จะมีเด็กนักเรียนสาวแสนสวยน่ารักซึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่จนแทบจะขาดใจอยู่ ภายในด้วย!!!
ทันทีที่เบ๊นซ์คนหรูที่นายสอนขับเลี้ยวหายเข้าไปในช่องๆ รถบีเอ็มอีกคันหนึ่งก็เลี้ยวเข้ามาเด็กเฝ้าที่เป็นเด็กอีกสาน ตัวดำผอมสูงชื่อโหน่ง คิดในใจ
"เออโว้ย วันนี้แปลกดี มีคนมาอึ๊บกันแต่เช้า เยอะจริงแฮะ"
แต่พอไอ้โหน่ง วิ่งเข้ามาแล้วรับ แล้วต้องถามอย่างแปลกใจ เพราะในรถบีเอ็มนั้นมีชายหนุ่มคนขับแค่คนเดียว
"อ้าวพี่ชาย ทำไมมาคนเดียว"
แต่ชายหนุ่มที่นั่งขับอยู่นั้นหน้าเครียด จนไอ้โหน่งไม่กล้าแซวต่อ อีกอย่างเขายื่นแบงค์ห้าร้อยสองฉบับให้พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ว่า
"ขอเข้าใช้ห้องหน่อยแค่ไม่กี่นาที"
แค่นี้ไอ้โหน่งก็ไม่สนใจอะไรแล้ว ยิ้มกว้างผายมือ วิ่งนำไปยังห้องว่างอีกห้อง ถัดจากห้องที่นายสอนขับรถเข้าไป
ชายคนนั้นย่อมเป็นพนมนั่นเอง
พนมที่เมื่อคืนจอดรถเฝ้าที่หน้าบ้านของเริงชัยทั้งคืน ชายหนุ่มไม่ได้นอนเลยแม้แต่งีบเดียว นั่งตาค้างครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย สับสนวุ่นวาย และคั่งแค้นใจจนอัดอก
พอเช้ามืดเขาก็เห็นนายสอนหิ้วกระเป๋าหนังใบย่อมออกมาจากบ้านท่าทางลับๆล่อๆ มีพิรุธ ขับรถออกจากบ้าน ชายหนุ่มจึงขับตามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นนายสอนจอดซุ่มอยู่นอกบ้านบิดามารดาของภรรยา
พนมสงสัยในใจ นายสอนทำไมมาทำลับล่ออยู่ตรงที่นี้?
ในที่สุดชายหนุ่มก็ได้คำตอบให้กับตนเอง เมื่อแลเห็นน้องภรรยาในชุดนักเรียนเดินออกมาจากบ้าน และนายสอนขับรถไปเทียบ
ระยะทางที่เขาจอดรถอยู่ห่างไปนั้นไกลเกินกว่าที่พนมจะแลเห็นสีหน้าแววตาของ ปรีณา ชายหนุ่มเพียงแต่รู้ว่าอีกประเดี๋ยวหนึ่งนั้นเด็กสาวก็เข้าไปนั่งเคียงข้าง นายสอน
นี่เป็นการยืนยันให้กับพนมได้แน่ใจว่า ปรีณาและเริงชัยจะต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างที่แน่นแฟ้น ขนาดแค่นายสอนคนขับรถ เด็กสาวยังยินยอมไปไหนมาไหนด้วยตามลำพังได้ เขาไม่รู้ว่าเริงชัยให้

อะไรเป็นการตอบแทนปรีณาถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อเสือกไสให้พี่สาวของเธอเข้าสู่ปากเสืออย่างเริงชัย
"พี่ผิดหวังในตัวเธอจริงๆ บี ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนอย่างนี้"
พนมครุ่นคิดอย่างที่แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ความคิดแห่งการดูถูกดูแคลนปรีณานั้นยิ่งตอกย้ำให้ลึกลงไปอีกเมื่อเขาขับสะกด รอยนายสอนไปเรื่อยๆ จนเห็นรถที่นายสอนขับเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด
"ทำไมนะ บี เธอถึงทำตัวเหลวแหลกอย่างนี้ ไม่คู่ควรสมกับเป็นน้องของเอเลยแม้แต่นิดเดียว"
พนมคิดอย่างผิดหวัง สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกชิงชังรังเกียจ
ตอนนั้นพนมยืนแอบรีรอ เฝ้าคอยดูจนเห็นว่าเด็กเฝ้าประตูไม่ทันสังเกตเห็นเขาแล้ว ชายหนึ่งจึงรีบปราดออกไปแหวกม่านที่ห้องข้างๆ หลบเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เพราะความหื่นกระหายจนหน้ามืด นายสอนที่พาปรีณาเข้าไปในห้องไม่ทันคิดจะปิดล๊อครถให้เรียบร้อย พนมที่เดินสืบเท้าเข้าไปแลเห็นกระเป๋าถือสีดำที่นายสอนหิ้วออกมาจากบ้าน วางอยู่ที่เบาะตอนหลัง

ของรถ กระเป๋าใบหนานั้นสะกิดความสนใจอะไรบางอย่างของพนมขึ้นมา บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งคำตอบของสิ่งที่เริงชัยนำมาให้เป็นรางวัลแก่ปรีณาก็ เป็นได้
พนมจึงค่อยๆ เปิดประตูอย่างเบามือ และค้นเข้าไปในกระเป๋า หยิบวีดีโอมือถือเครื่องหนึ่งออกมา ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็กดปุ่มเปิดเครื่องทำงาน ทันใดนั้นดวงตาของพนมก็เบิกค้างจ้องไปยังภาพในจอวีดีโอด้วยอาการที่ไม่อยาก จะเชื่อสายตาของตนเอง ภาพในวีดีโอนั้นแลเห็นปรีณาเด็กสาวที่ตลอดมา

เขาเห็นว่าเป็นคนที่ซื่อบริสุทธิ์สดใสนั้นกำลังนั่งใช้ปากอมอวัยวะเพศให้กับ ชายแก่คนหนึ่ง ซึ่งใช้มือของมันขยำไปตรงหว่างขาของเธอเป็นการตอบแทน โดยที่ในภาพแลเห็นอย่างชัดเจนว่าปรีณาแอ่นตัว

ของขึ้นเสนอสนองการเล้าโลมนั้นอย่างมีอารมณ์ร่วมขนาดไหน
ใบหน้าหล่อเหลาของพนมซีดขาว และแดงสลับกัน หมดสิ้นศรัทธา ความรัก ความเอ็นดูที่อาจจะยังคงมีหลงเหลืออยู่ในใจ ที่มีให้กับปรีณาไปโดยสิ้นเชิง ส่ายศีรษะอย่างท้อใจ นึกอย่างดูแคลน
"เด็กแพศยาอะไร ร่านระริก น่ารังเกียจ ขยะแขยงเหลือเกิน"
พนมถอดเทปนั้นออกมาใส่กระเป๋ากางเกง ขยับตัวเข้าไปใกล้ห้องนอน ซึ่งปิดม่านสนิท มองไม่เห็นเหตุการณ์ข้างใน
ตอนนั้นปรากฏเสียงหัวเราะหื่นๆ ดังแว่วออกมา พอเขาแนบหูลงไปก็ได้ยินเสียงของนายสอนดังออกมาว่า
"อูยยยย...อย่างนั้นแหล่ะ น้องบี ...อูย...เลียไปอย่างนั้น...โอวววววว...อร่อยควยพี่สอนจริงๆ..."
อย่างที่สุดจะทนฟังต่อไปได้ พนมก็ผุดลุกขึ้น เดินเซๆ ขาสั่นถอยห่างออกไปจากห้อง แล้วก็หันหลังเดินจากไปโดยที่ไม่มองย้อนกลับมาอีกเลย!!!
ในเวลาเดียวกัน ณ อีกสถานที่หนึ่งห่างไกลออกไป
ปาริฉัตรที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วเรือนร่าง หญิงสาวกระพริบตาถี่ถี่ เหมือนกับกำลังทบทวนว่าเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับตน
ทันทีที่เธอรับรู้ถึงร่างกำยำที่นอนอยู่เคียงข้าง และมือข้างหนึ่งของเขาพาดอยู่ตรงทรวงอกของเธอ ก่ายกอดอย่างถือสิทธิ์ ปาริฉัตรก็ตระหนักชัดเจนว่าเมื่อคืนนั้นเธอได้ผ่านพ้นช่วงเวลาอะไรมา
พร้อมๆ กับการรับรู้นั้น ดวงตาคู่งามของหญิงสาวก็ปรากฏหยาดน้ำตาใสไหลรินออกมาทันที
อา ทำไมเธอถึงปล่อยตัวปล่อยใจไปอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้?
ปาริฉัตรพยายามขยับตัวให้พ้นจากการโอบกอดของเริงชัย แต่พอเธอเคลื่อนกาย อาการเจ็บแปลบไปทั่วเรือนร่าง โดยเฉพาะบริเวณหว่างขานั้นก็พลุ่งขึ้นมาจับจิต จนหญิงสาวต้องส่งเสียงครางออกมาอย่าง

เจ็บปวด ความปวดแสบระบมนั้นบังคับให้ปาริฉัตรต้องนอนนิ่งๆ อยู่ในลักษณะนั้นอยู่อีกพักใหญ่
แม้ว่าร่างกายนั้นจะอุทธรณ์ว่าไม่ต้องการขยับเขยื้อนใดๆ ทั้งสิ้น แต่เพราะความรักสะอาด และรู้สึกสะอิดสะเอียนรังเกียจคราบสกปรกที่เหนียวเหนอะตามตัวของเธอเต็มที่ ปาริฉัตรสู้กัดฟันข่มความเจ็บปวด

สุดชีวิต ค่อยๆ จับแขนของเริงชัยยกวางไว้ข้างตัวของหนุ่มใหญ่ และก้าวขาลงจากเตียง
แต่ละก้าวที่ปาริฉัตรพยายามเดินเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ติดกันไม่กี่เมตร มันดูช่างยาวไกลเหลือประมาณ ร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องที่ปรากฏรอยช้ำเป็นจ้ำๆ นั้นตัวงอสะท้าน น้ำตาของหญิงสาวไหลรินออกมา

ด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ
หญิงสาวอาบน้ำอุ่น สะผม ถูสบู่ ทำความสะอาดชำระล้างร่ายกายทุกส่วนสัด โดยเฉพาะบริเวณของสงวนที่ตอนนั้นระบมแสบไปหมด เธอใช้น้ำอุ่น ถูสบู่อ่อนลูบไล้ล้างทำความสะอาดหลายต่อหลายครั้ง

น้ำตาปาริฉัตรไหลรินออกมาผสานกับสายน้ำที่ราดรดมาจากฝักบัว
แม้ว่าเธอชำระคราบคาวกามที่เปรอะเปื้อนอยู่ตรงบริเวณนั้นออกไปจนหมด แต่สิ่งที่มันหลั่งไหลราดรดอยู่ภายในตัวของเธอล่ะ? ไม่มีทางที่เธอจะชำระล้างความสกปรกโสมมนั้นออกไปได้เลย ความโสมมที่

มันจะต้องกลายเป็นตราบาปที่ตามติดเธอไปจนตลอดชั่วชีวิต....
ปาริฉัตรอาบน้ำเสร็จ ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อย ความจริงเธอต้องการออกไปจากบ้านหลังนั้นให้ไกลแสนไกล แต่ความเจ็บปวดที่รุมเร้าเข้ามาจนสุดจะทนทาน ร่างกายที่สั่นสะท้านรู้สึกเหน็บหนาว

ขึ้นมาอย่างฉับพลันราวกับจับไข้นั้น ทำให้เธอไม่สามารถทำได้ดั่งใจนึก ต้องเดินช้าๆ ตัวงอ กุมท้องน้อยไปนั่งตรงโซฟายาวในห้องรับแขก
พอสายตาของเธอไปปะทะกับ ชุดอาบน้ำสีฟ้าสองชิ้น เสื้อคลุมอาบน้ำของเธอกับของเริงชัย รวมไปถึงกางเกงอาบน้ำของเขาซึ่งตกกระจัดกระจายเรี่ยราดอยู่บริเวณนั้นแล้ว ต้องรู้สึกยอกแสยงใจขึ้นมาจับจิต

จนสุดประมาณ
ปาริฉัตรนั่งพิงพนักโซฟาอย่างอ่อนระโหย นัยน์ตาคู่งามนั้นเศร้าสร้อย เหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย น้ำตาใสไหลรินมาตามหางตาไม่หยุด
เธอรู้สึกเสียใจ น้อยใจในการกระทำของสามี แต่ตัวเธอเองเล่า ไยมิใช่ทำตัวเหลวแหลกไปยิ่งกว่า?
ทันใดนั้น เสียงการลุกขึ้นตื่น และฝีเท้าของเริงชัยดังแว่วมาจากภายในห้องนอน
"คุณเอที่รัก ตื่นแล้วหรือจ๊ะ?"
เริงชัยที่มีเพียงผ้าขนหนูพันเอวไว้หลวมๆ กระซิบไปกับข้างหูของหญิงสาว เมื่อเขาเดินออกมานั่งเบียดแนบชิดกับเธอ สองแขนตระคองกอดร่างของปาริฉัตรอย่างถือสิทธิ์
หญิงสาวสะอื้นไห้ ตระหนักแน่แก่ใจว่า นับแต่นี้หนทางชีวิตของเธอกับสามีคงไม่ต่างอะไรกับเส้นขนานที่ไม่มีทางหวน กับมาบรรจบกันได้อีกต่อไป
นายสอนคนขับรถเจ้าเล่ห์ของเริงชัย ผิวปาก ฮัมเพลงอย่างสบายใจ ตัวเบาไปหมด กำลังขับรถฝ่าการจราจรที่หนาแน่นกลับไปที่พัก ขณะที่เขาได้รับโทรศัพท์จากเริงชัย
"นายเองหรือครับ ทางโน้นเป็นไงบ้างครับ เรียบร้อยดีไหม ยาที่ให้ไปเป็นไงบ้างครับ"
นายสอนถามเสียงเคล้าหัวเราะ เริงชัยส่งเสียงหัวเราะตอบมา
"ยอดเยี่ยมสุดๆ ยาของมึงเด็ดขาดมาก ทั้งคืนจนเกือบเช้าไม่มียุบ กูกลับไปต้องตบรางวับมึงอย่างงามเลย ไอ้สอน ฮ่ะ ฮ่ะ"
คนขับรถบ้ากามยิ้มออกมา ถามเร็วปรื๋อ
"ฮ้า ถ้าอย่างนั้นสำหรับหนูบี นายก็ไฟเขียวให้ผมได้แล้วน่ะสิครับ"
"ใช่ ตอนนี้มึงจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่างให้มันรุนแรงนักแล้วกัน"
หนุ่มใหญ่ตอบมา จากนั้นคุยต่อซักถามเรื่องราวอะไรอีกพักก็วางหูไป
นายสอนเกาหัวตัวเองอย่างขัดใจ พึมพำ
"ว้า นายโทรมาช้าไปหน่อยเดียว ถ้าไม่งั้นก็ไม่ต้องส่งน้องบีไปโรงเรียนแล้ว เข้าโรงเรียนพี่สอนคนนี้ดีกว่า มันกว่า เสียวกว่าเยอะ ฮ่ะ ฮ่ะ"
จากนั้นคนขับรถจอมเจ้าเล่ห์หวนนึกถึงตัวเองที่บังคับให้ปรีณาโม้กให้ เหมือนกับที่บิดาตัวเองทำเมื่อคืนวาน จนตัวเบาสบายคลายเงี่ยนไปเป็นปลิดทิ้ง
ภาพของเด็กสาวแสนสวยที่น้ำตาไหลพราก แววตาแสดงออกถึงความรู้สึกรังเกียจสะอิดสะเอียน แต่จำต้องคุกเข่ากับพื้นรูดซิปกางเกงของเขา หยิบควยออกมาแล้วใช้มือน้อยๆ ถอกเข้าออก ก่อนที่จะอ้าปาก

จิ้มลิ้ม แลบลิ้นเลียควย และอม โม้กให้กับเขาอย่างไม่มีทางขัดขืน ความรู้สึกที่เสมือนเป็นผู้ชนะ มีพลังอำนาจในการบังคับให้เด็กสาวทำอะไรก็ได้ดั่งใจนั้นทั้งสร้างความรู้สึก สะใจ สาสมใจให้เกิดขึ้นแก่ตัว

นายสอนจนขนลุกเกรียวด้วยความกระสันซ่าน
หลังจากที่เขาระเบิดน้ำกามราดรดเข้าไปในช่องปากอุ่นๆ นั้นอย่างอิ่มเอมแล้ว ถึงแม้จะอยากจับร่างเล็กๆ นั้นเข้ามาขย้ำตะบันควยใส่ให้หายอยาก แต่นึกถึงคำพูดของดาวได้ จึงสู้อดใจเอาไว้ บอกกับตัวเองว่า

เอาแค่หอมปากหอมคอก่อน ปล่อยให้ปรีณาไปล้างหน้าล้างตาบ้วนปาก แล้วจึงขับรถไปส่งเด็กสาวที่โรงเรียน
ในมโนภาพนั้น นายสอนหวนนึกไปตอนที่ปรีณาขอเทปเขาคืน หลังจากที่เขาทำเป็นบอกว่าถ้าเธอทำให้กับเขาเหมือนทำกับนายแจ้งผู้เป็นพ่อ ของเขาแล้วจะคืนเทปให้ แต่ได้รับคำตอบจากเขาว่า
"เอาไว้น้องบี ช่วยพี่สอนให้มีความสุขมากๆ กว่านี้อีกหลายๆ ครั้ง แล้วพี่สอนจะคืนให้แล้วกัน"
นายสอนหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าอ่อนหวานน่ารักที่เขาเก็บไปฝันทุกคืนนั้นซีดเผือด เซียวสลด ตากลมโตเบิกกว้างมองเขาอย่างตะลึงงันเหมือนกับถูกผีหลอก คราบน้ำกามขาวขุ่นยังซึมอยู่ตาม

มุมปากสวยๆ นั้น
"น้องบีคนสวยของพี่สอนจ๋า คราวหน้าเจอะกัน รับรองว่าน้องบีไม่พ้นควยพี่สอนแน่จ้ะ ฮะ ฮะ"
นายสอนคำนึงอย่างกระหยิ่มใจ เมื่อนึกถึงเทปที่เก็บไว้ในมือ โดยที่คนขับรถจอมเจ้าเล่ห์หารู้ไม่ว่าเทปที่อยู่ในวีดีโอตอนหลังรถนั้น ถูกพนมที่สะกดรอยตามยึดเอาไปแล้ว
วันนั้นทั้งวันปรีณากลายเป็นคนละคนกับเด็กสาวที่ร่าเริงแจ่มใส จนเพื่อนๆ พากันถามไถ่อย่างเป็นห่วง ซึ่งปรีณาแก้ตัวว่าปวดหัว เป็นโรคกระเพาะ ยิ่งตอนที่ปรีณาพยายามหาอะไรรองท้องเนื่องจากเมื่อเช้า

ทานข้าวต้มไปนิดเดียว แต่พอเธอนึกถึงคาวกามของนายสอนที่กลบปากเมื่อเช้าแล้ว ความรู้สึกบางอย่างที่พลุ่งฟุ้งขึ้นมา ก็ทำให้เด็กสาวอาเจียนทุกอย่างออกมาหมด ทำให้เพื่อนๆ เชื่อสนิทว่าเธอเป็นโรค

กระเพาะจริง
ปรีณาใจว้าวุ่นหวาดผวาขวัญเสียตลอดทั้งวันจนไม่เป็นอันเรียน เมื่อนึกถึงท่าทีหน้าตาของนายสอนเมื่อเช้ายามที่ส่งเธอหน้าโรงเรียน แววตาของเขามันบ่งบอกให้เด็กสาวได้ตระหนักว่า เหตุการณ์ประหนึ่ง

ฝันร้ายนี้จะหวนกลับมาหลอกหลอนเธอไปอีกนานเท่านาน ตราบใดที่เขายังมีเทปที่อัดภาพอันน่าอดสูใจของเธออยู่
เด็กสาวแสนสวยหวาดวิตกสับสนใจ อย่างไม่รู้ที่จะหันหน้าไปปรึกษาใคร ญาติผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดของเธอ บิดามารดา พี่สาวล้วนไม่อยู่ข้างกายเธอเลยแม้แต่คนเดียว
อย่าว่าแต่ต่อให้อยู่ ปรีณาเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะมีความกล้าพอจะเอ่ยปากกับพวกเขาหรือไม่?
ท่ามกลางความเปล่าเปลี่ยวว้าเหว่ใจ ภาพของพนมก็ผุดขึ้นในความคิด
พี่เขยที่รักเธอ เอ็นดูเธอราวกับเป็นน้องสาวของเขา และเธอก็รัก เคารพอีกฝ่ายเหมือนพี่ชาย ความคิดคำนึงถึงพนมสร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้นในใจของปรีณาขึ้นมาวูบหนึ่ง ทันที
และความรู้สึกนั้น ทำให้ถึงแม้เด็กสาวยังไม่ได้ตัดสินใจลงไปแน่นอนว่าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ให้กับพนมฟังหรือไม่ แต่เพราะความเหงา และรู้สึกอยากจะหาที่พึ่งพิงทำให้เย็นวันนั้น ปรีณานั่งแทกซี่ไปที่

บ้านซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความสุขของพี่สาว กับพี่เขยของเธอ ที่ซึ่งเด็กสาวไปมาหาสู่จนกระทั่งถึงกับมาค้างคืนด้วยอยู่บ่อยๆ ครั้ง เปรียบเสมือนบ้านแห่งที่สอง
เนื่องเพราะปรีณาไปมาบ่อยครั้งมาก ปาริฉัตรจึงทำกุญแจบ้านให้กับน้องสาวชุดหนึ่งเพื่อความสะดวก
ดังนั้นเมื่อเด็กสาวกดกริ่งที่หน้าประตูใหญ่ไปหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เห็นมี ใครเปิดประตูรับ ทว่าปรีณาเห็นรถของพี่เขยยังจอดอยู่ในโรงเก็บ จึงถือวิสาสะไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป
"เอ หรือพี่หนึ่งคิดมากเรื่องพี่เอ จนล้มป่วย"
ปรีณาครุ่นคิด ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบเดินแกมวิ่งเข้าไปภายในบ้านอย่างร้อนใจ
ในห้องรับแขกที่ปกติจัดดูแลรักษาความสะอาดเอาไว้อย่างเรียบร้อยตอนนั้น ตามโต๊ะปรากฏขวดเหล้าล้มเกลื่อน เศษกล่องอาหารสำเร็จรูปตกหล่นอยู่ แสดงถึงความไม่เอาใจใส่ดูแลอะไรเลยของพนม เสื้อ

ผ้าของชายหนุ่มที่ถอดไว้แล้วโยนระเกะระกะตามเก้าอี้
ปรีณาขมวดคิ้วเรียวงาม เดินจรดปลายเท้าขึ้นบันไดไปข้างบนอย่างแผ่วเบา เด็กสาวเดินมาถึงห้องนอนของพี่เขยกับพี่สาว ซึ่งตอนนั้นประตูเปิดแง้มๆ อยู่
เธอแอบมองลอดไปก็เห็นร่างของพนมนอนคว่ำเหยียดยาวอยู่บนเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อเชิ๊ตที่ใส่นั้นยับยู่ยี่ แล้วต้องถอนใจออกมา ตอนนั้นด้วยความสงสารพี่เขย ทำให้ปรีณาลืมเรื่องทุกข์ร้อนของตัวเอง

ไปสนิท
ปรีณาเดินกลับลงไป ช่วยจัดการเก็บกวาดขยะที่เกลื่อนห้องรับแขกเอาไปทิ้งที่ถังขยะ จากนั้นรวบรวมเสื้อผ้าของชายหนุ่มเดินเอาไปซักในเครื่องซักผ้าบริเวณห้อง ครัว
สภาพในห้องครัวที่เคยสะอาดน่าอยู่น่าใช้ ก็เต็มไปด้วยกองจานชามที่ยังไม่ได้ล้าง เศษอาหารเกลื่อนไปหมด ปรีณาเห็นแล้วอ่อนใจ หยิบถุงมือล้างจานมาใส่ จัดการช่วยล้างจาน ทำความสะอาดคราบสกปรก

ตามจุดต่างๆ เธอง่วนทำจนถึงเกือบทุ่มหนึ่ง ทุกอย่างจึงค่อยเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม
เด็กสาวยกหลังมือปาดเหงื่อตรงหน้าผากขาวนูนสวยของเธอ ทอดถอนใจยาว พึมพำ
"พี่เอ..ไม่รู้จะหนีไปนานอีกขนาดไหน เฮ้อ สงสารพี่หนึ่งจริงเชียว.."
จากนั้นเธอก็ไปเปิดตู้เย็น กวาดตากลมโตพยายามหา สิ่งของที่พอจะใช้ทำเป็นอาหารเย็นได้บ้าง เพราะตัวเธอเองก็รู้สึกหิวจนแสบท้องเหมือนกัน แต่สภาพของสิ่งของในตู้เย็นนั้นก็ฟ้องเรื่องการขาดความ

ดูแลเอาใจใส่เหมือนกัน ตลอดแทบทุกชั้น ทุกตู้นั้นว่างเปล่า ไม่มีอาหารสดเหลือติดอยู่เลยแม้แต่น้อย ผักผลไม้ที่พอเหลืออยู่บ้างก็มีแต่ที่เน่าหมดอายุไปแล้วทั้งนั้น ปรีณาขมวดคิ้วส่ายศีรษะ คัดเลือกของเสียๆ

ออกทิ้งไป
แต่โชคยังดีที่ปรีณายังหาเจอไข่ไก่หลายใบ เด็กสาวจึงหุงข้าว และทำข้าวผัดใส่ไข่อย่างง่ายๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังส่งกลิ่นหอมหวนไปทั่วครัว จนคนทำเองน้ำลายสอ
จากนั้นปรีณาก็เดินขึ้นไปยังห้องนอนของพนม เด็กสาวเคาะประตูส่งเสียงเรียก
"พี่หนึ่ง..พี่หนึ่ง..นี่บีนะคะ..ตื่นเถอะค่ะ"
ไม่มีเสียงตอบ หรืออาการเคลื่อนไหวใดๆ จากพนมที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงเลย
ปรีณายืนลังเลใจอยูที่หน้าประตูห้อง เพราะถึงแม้จะมาค้างที่บ้านนี้บ่อยๆ แต่ในห้องนอนนี้ เธอไม่เคยย่างเท้าเข้าไปมาก่อนเลย
ด้วยความเป็นห่วงเกรงว่าพี่เขยอาจจะไม่สบายอยู่ ทำให้เด็กสาวคิดอยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน จรดเท้าเข้าไปที่เตียงนอน แล้วก้มลงไปเขย่าตัวพนมเบาๆ
"พี่หนึ่ง..พี่หนึ่ง..เป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ.."
ปรีณาส่งเสียงถาม เด็กสาวยกมือปิดจมูกตัวเอง เพราะเหม็นกลิ่นเหล้าที่หึ่งจากตัวของพี่เขย พลางเขย่าตัวเขาแรงขึ้นๆ
แต่ชายหนุ่มยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร ทำให้ปรีณาหน้าเสีย รวบรวมกำลังเท่าที่มีพยายามจนพลิกตัวของพนมกลับขึ้นมานอนหงายจนได้ ใบหน้าของพนมนั้นซูบเซียว ไว้เครารกครึ้มดูแล้วน่าเวทนา

สงสารในความรู้สึกของปรีณาจนเธออุทานออกมา
"โถ พี่หนึ่ง..."
พอดีตอนนั้นเด็กสาวได้ยินเสียงพึมพำดังขึ้นในลำคอของพี่เขย เธอจึงค่อยโล่งใจขึ้น หันหน้าไปเห็นผ้าขนหนูที่ตากอยู่ในราว ก็เดินไปหยิบ แล้วก็รองน้ำอุ่นๆ ในห้องน้ำใส่อ่างเล็กๆ กลับออกมา
ปรีณานั่งลงข้างเตียง ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอของพี่เขยอย่างเบามือ
ในห้วงแห่งความสับสนครึ่งหลับครึ่งตื่น พนมรู้สึกเหมือนกับภรรยาแสนรักกลับมาดูแลตัวเขาเอง พนมไขว่คว้ามือนุ่มยึดเอาไว้แน่น พึมพำ
"เอ..เอจ๋า..อย่าทิ้งพี่ไปไหนอีกนะ..."
ปรีณาใจหาย นัยน์ตากลมโตนั้นน้ำตาคลอด้วยความสงสารพี่เขยจับใจ มือขวาของเธอถูกพนมกุมไว้แน่น จึงใช้มือซ้ายลูบไปที่ผมของชายหนุ่มอย่างปลอบประโลม กล่าวเสียงอ่อนเบา
"พี่หนึ่ง..พี่หนึ่ง..ตื่นเถอะค่ะ นี่บีเอง"
พนมกระพริบตาถี่ถี่ ในที่สุดก็ฝืนลืมขึ้นมา ดวงตาของชายหนุ่มนั้นแดงซ่านด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปจนเมาหลับ พอพบว่าเป็นปรีณานั่งอยู่ เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น ปล่อยมือเล็กๆ ที่เขากุมอยู่ทิ้งออกไปทันที
เด็กสาวแสนสวยไม่ทันสังเกต ความเครียดขึ้งที่เกิดขึ้น เธอยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน
"พี่หนึ่งลุกขึ้นนะคะ ลงไปทานอาหารเย็นสักหน่อย บีทำข้าวผัดร้อนๆ ไว้ให้แล้ว"
พนมมองใบหน้าอ่อนหวานน่ารักที่เอียงคอยิ้มให้เขาทั้งปากและนัยน์ตาแล้ว ชายหนุ่มไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กสาวหน้าใสที่นั่งอยู่เคียงข้างของเขานี้จะ เป็นคนที่มีจิตใจชั่วร้าย และแพศยาร่านราคะไม่มี

ยางอายแห่งกุลสตรีเลยแม้แต่น้อย
แต่สิ่งที่เขาพบและประสบมาในวันนี้ มันเกินกว่าที่เขาจะทำใจให้เชื่อเป็นอย่างอื่น และให้อภัยกับการกระทำของน้องภรรยาคนนี้ได้
พนมกล่าวเสียงห้วนขรึม
"บีเองหรือ นี่เธอมาทำไม..."
ปรีณารู้สึกแปลกๆ ในน้ำเสียงของอีกฝ่าย แต่ยังก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากนัก ยิ้มกล่าวตอบว่า
"บีแค่แวะมาเยี่ยมน่ะค่ะ พอดีเห็นบ้านมันยุ่งๆ รกๆ เลยช่วยเก็บกวาด และก็ทำอาหารเย็นให้"
พนมเบือนหน้าหนีไปอีกทาง นอนพลิกหันหลังให้กับปรีณา พร้อมกับกล่าวเสียงเครียดๆ
"เธอกลับไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว"
เด็กสาวรู้สึกน้อยใจขึ้นมานิดๆ ที่พนมมีทีท่า และวาจาน้ำเสียงกับตัวเธอเช่นนี้ แต่ก็พยายามระงับใจ เพราะคิดว่าพี่เขยกำลังประสบปัญญาความไม่สบายใจอย่างหนักหน่วงอยู่ ปรีณาพูดเสียงอ่อน

หวานพยายามรั้งตัวของพนมขึ้นมา
"พี่หนึ่ง..อย่าทำอย่างนี้สิคะ พี่เอเขายังโกรธอยู่ ปล่อยให้พี่เอไปพักผ่อนสักพัก พอเธอหายโกรธ เรื่องราวก็คงจะคลี่คลายขึ้น เชื่อบีเถอะค่ะ"
คำพูดของปรีณาในยามนั้นประดุจเชื้อเพลิงราดลงไปในกองไฟที่กำลังเผาผลาญอย่าง เร่าร้อนอยู่ในใจของชายหนุ่ม ทำให้พนมผงะขึ้นมา ใบหน้าที่หันขวับไปยังปรีณานั้นเกรียมกระด้าง แววตาอันเหี้ยม

เกรียมที่สาดประกายออกมานั้น ขู่ขวัญจนเด็กสาวสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ ร่างเล็กบางของเธอขยับจะลุกขึ้นหนี
แต่มือแข็งแรงของพนมตะปบไปที่หัวไหล่กลมมนของปรีณาเสียก่อน กระชากร่างของเธอลงมาหาเขา สองมือกำยำนั้นบีบไปตรงต้นแขนบอบบางแน่น เขย่าร่างปรีณาด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน จนเด็กสาว

ตัวสั่นสะท้าน
"เธอยังมีหน้ามาพูดอย่างนีอีกหรือ บี"
พนมตะคอกถามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ปรีณาเจ็บที่ต้นแขนจนต้องนิ่วหน้า พยายามดิ้นรนให้พ้นจากมือของพนม ส่งเสียงเครือสะท้านด้วยความเจ็บปวด และตื่นตระหนกใจในทีท่าของพี่เขยระคนกัน
"พี่หนึ่ง...ปล่อย...บีเจ็บนะ"
"ฮะ เจ็บแค่นี้ยังน้อยไปสำหรับเด็กสาวที่หน้าด้าน และแพศยาอย่างเธอ"
พนมกระชากเสียงตวาด ปรีณาน้ำตาคลอออกมาด้วยความกลัวในสีหน้าแววตาของชายหนุ่ม ซึ่งตอนนั้นขยำเขย่าไปที่ต้นแขนบอบบางของเด็กสาวนั้นอย่างรุนแรงไม่ปรานี ปราศรัย จนร่างเล็กนั้นตัวงอด้วย

ความเจ็บ ครวญครางออกมา
"พี่หนึ่ง..บีเจ็บมากค่ะ...อย่าทำร้ายบีเลย"
แต่ท่าทางที่น่าสงสารของปรีณาไม่ได้ทำให้พนมรู้สึกเวทนาสงสารเลย ตรงกันข้ามกับทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสาแก่ใจจนบอกไม่ถูก หัวเราะออกมาเสียงกระเส่า
"ใช่...ฉันต้องการให้เธอเจ็บ เจ็บเหมือนกับที่พวกเธอสุมหัวกันทำฉันเจ็บ.."
กล่าวจบพนมก็กระชากร่างเล็กบางเข้ามากอด แล้วบดขยี้ปากริมฝีปากจูบไปทั่วใบหน้างดงามน่ารักของเด็กสาวอย่างรุนแรงป่าเถื่อน
ปรีณาดิ้นรนสุดเรี่ยวแรงเท่าที่เธอจะมีกำลังจะกระทำได้ พยายามเบี่ยงเบนใบหน้าหลบการระดมจูบของพนมอย่างหวาดผวาแตกตื่นใจ
"พี่หนึ่งเป็นบ้าไปแล้ว..ปล่อยบีเดี๋ยวนี้นะ..บอกให้ปล่อย..."
เด็กสาวร้องเสียงหลง ดิ้นรนหยิกข่วนชายหนุ่มเป็นพัลวัล แต่พนมไม่สะเทือน ด้วยความแค้นที่คุกกรุ่นพร้อมจะระเบิดออกมาทุกเมื่อ เขาจับร่างเล็กแบบบางนั้นเหวี่ยงหงายไปบนเตียง แล้วพลิกตัวคว่ำล้ม

ทับร่างของปรีณาที่ผวาจะดันตัวลุกขึ้นหนีเอาไว้ กดตัวของเด็กสาวเอาไว้แน่น
"วันนี้ฉันจะช่วยให้เด็กร่านสวาทอย่างเธอ ได้สาสมใจอยากเอง..."
พนมคำราม ซุกใบหน้าจูบไซร้ไปตามซอกคอขาวผ่องของปรีณาอย่างหยาบคาย สองมือของชายหนุ่มขยำขยี้ไปบนทรวงอกกะเปาะเล็กงามของเด็กสาวอย่างรุนแรง ขณะที่เจ้าของเรือนร่างงามนั้นร้องไห้

ออกมาอย่างประหวั่นพรั่นพรึง แม้จะดิ้นรนขนาดไหนก็สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้
"อย่าค่ะ..พี่หนึ่ง..อย่า..บีขอร้อง...อย่าาาาา..."
สิ่งที่เธอทำได้เพียงแค่ส่งเสียงวิงวอนขอร้อง ซึ่งพนมไม่ได้ให้ความสนใจที่จะรับฟังเลยแม้แต่น้อยนิด
ความนุ่มเนียนของผิวกาย ความอ่อนหยุ่นของก้อนเนื้อที่เขาได้สัมผัส ทำให้เลือดในกายของพนมไหลเวียนเร็วขึ้น ความปรารถนาที่พลุ่งขึ้นมาอย่างแรง ท่อนเนื้อของชายหนุ่มเริ่มกระดกแข็งขึ้นมาจนปรี

ณาที่ถูกทับอยู่บนเตียงรับรู้ได้ เด็กสาวขนลุกเกรียว สั่นสะท้านราวกับลูกนกเปียกน้ำฝน วงหน้าอ่อนหวานน่ารักนั้นเปรอะไปด้วยน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด
"ได้โปรดค่ะ..พี่หนึ่ง..อย่าทำกับบีอย่างนี้....บี...บีขอร้อง..อย่างน้อยก็นึกถึงพี่เอบ้าง..."
ปรีณาเอ่ยถึงพี่สาว ด้วยความคาดหวังว่าชื่อของปาริฉัตรจะช่วยเรียกสติของพี่เขยให้กลับคืนมา
แต่ อนิจจา เด็กสาวหาทราบไม่ว่า คำพูดประโยคนั้นราวกับน้ำมันเบนซินราดไปบนเปลวเพลิงที่เผาผลาญอยู่ในใจของ พนม ให้ปะทุเดือดขึ้น เผาผลาญสติความยับยั้งชั่งใจที่อาจจะยังคงมีเหลืออยู่ให้มอด

ไหม้ไปหมดโดยสิ้นเชิง
ชายหนุ่มใบหน้าถมึงทึง เค้นหัวเราะเสียงกร้าว มือของเขากำไปที่ปกเสื้อนักเรียนของปรีณา ออกแรงฉีกอย่างแรง กระดุมเสื้อนักเรียนก็ปลิวว่อนออกไปทันที
พริบตาที่เขาแหวกชายเสื้อนักเรียนเปิดออก มือของเขาที่คว้าไปยังคอเสื้อซับในสีขาวเนื้อลื่น ก็ฉีกกระชากผ้าเนื้อบางนั้นฉีกขาดออก แคว่ก แคว่ก อย่างรุนแรง จนเผยให้เห็นผิวขายขาวผ่องปานเย้ยหิมะของ

ปรีณา ทรวงอกที่แม้ไม่ใหญ่โตมหึมา แต่ได้รูปเป็นกะเปาะงดงามตูมตั้งยั่วยวนซ่อนอยู่ในยกทรงแนบเนื้อสีเหลืองอ่อน
ปรีณากรีดร้องเสียงแหลมเล็กอย่างแตกตื่นใจสุดขีด พยายามใช้สองแขนขึ้นมาปิดบังตรงทรวงอก แต่พนมมืออันแข็งแรงของพนมก็จับสองแขนของเด็กสาวออกไปกดบนเตียงอย่างง่ายดาย
พนมเบิ่งนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงเพ่งมองไปแล้วส่งเสียงคำราม ก้มหน้าลงไปโลมเลียตรงเนินอกขาวของปรีณาอย่างหยาบคายป่าเถื่อนไม่มีความ ละมุนละไมเลย ปรีณากรีดร้อง ดิ้นสุดเรี่ยวสุดแรง

เท่าที่เธอมี แต่ชายหนุ่มมีแรงมากกว่าเธอเยอะกดร่างเล็กบางเอาไว้แน่น และเมื่อลิ้นของเขาเริ่มละเลงลงไปในร่องอกเล็กๆ นั้น ปรีณาก็ตัวสั่นสยิว ร่างอ่อนเปลี้ยปวกเปียกไปพลัน
ลมหายใจของชายหนุ่มเริ่มร้อนแรงและเร็วถี่ อาศัยจังหวะที่ร่างเล็กบางนั้นอ่อนยวบ ใช้มือถลกยกทรงแนบเนื้อนั้นขึ้นไป เผยให้เห็นก้อนเนื้อกะเปาะงามคู่นั้นเต็มๆ
จากนั้นพนมใช้มือขยำเคล้นคลึงเฟ้นฟอนลงไปอย่างเมามัน ก้มหน้าลงไปใช้ขบกัดตรงปลายถันสีชมพูติ่งงามนั้นอย่างรุนแรง บดขยี้ปรีณาอย่างไม่ปราณีปราศรัยราวกับต้องการทำให้ก้อนเนื้องามทั้งคู่นั้น

แหลกราญไปคามือตนเอง
"พี่หนึ่ง...บีเจ็บเหลือเกิน....ได้โปรดหยุด..หยุด..บีเจ็บ..."
ปรีณาคร่ำครวญวิงวอนเสียงเครือสะท้าน ร่างเล็กบางของเธอดิ้นพราดด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวจับจิตจับใจ ขณะที่พนมไม่ได้ให้ความเวทนาสงสาร ส่งเสียงหัวเราะกระเส่า
"ฮะ ฮะ ทำเป็นดิ้นเหมือนไม่เคย อย่ามาทำเป็นตีหน้าใสซื่อหลอกฉันอีกเลย นังเด็กแพศยาร่านสวาท"
ปรีณาร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา ทั้งการกระทำและคำพูดของพนมนั้นทำร้ายร่างกายและจิตใจของเด็กสาวให้บอบช้ำ อย่างแสนสาหัส จนร่างเล็กบางนั้นสั่นสะท้าน นอนระทดระทวยหมดกำลังใจที่จะ

ดิ้นรนขัดขืนอีกต่อไป ซึ่งพนมก็ไม่สนใจระดมบดขยี้ดูดดื่มเค้นคลึงไปบนทรวงอกกะเปาะงามคู่นั้นต่อไป อย่างเมามันปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่คั่งค้างอยู่ภายในลงไปอย่างสุดๆ
พนมขยำขยี้ดูดดื่มจนพอใจ ความปรารถนาสายหนึ่งที่คุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรง ทำให้มือของเขากระชากกระโปรงนักเรียนของปรีณาถลกขึ้นมาจนถึงหว่างเอวคอดของ เธอ และใช้เข่าแข็งแรงของเขา

แหวกท่อนขาขาวผ่องเรียวบางเป็นลำงามของเด็กสาวให้ถ่างออก
ก้อนเนื้อที่ตุงอยู่ตรงเป้ากางเกงของชายหนุ่มก็ดันออกมาถูไถตรงเนินเนื้ออูม ได้รูปของปรีณาที่ซ่อนอยู่ในกางเกงในตัวน้อยสีเหลืองอ่อนเข้าชุดกับยกทรง ทันที
เด็กสาวใจหาย สัญชาตญาณของสตรีเพศบ่งบอกว่าพนมกำลังจะทำอะไรกับเธอต่อไป ร่างเล็กบางที่อ่อนระทวยปวกเปียกนั้นพลันดิ้นรนอย่างสุดชีวิตด้วยเรี่ยวแรง อึดสุดท้าย ซึ่งเป็นเรี่ยวแรงในส่วนลึกของ

สตรีเพศคนหนึ่งที่จะปกป้องรักษาสิ่งที่เธอหวงแหนไว้สุดชีวิต
แต่ไม่ว่าดิ้นรนอย่างไร ปรีณาก็รู้สึกว่าเรี่ยวแรงของเธอมันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน น้อยจนเกินกว่าจะช่วยเหลือพาตัวให้รอดพ้นชะตากรรมนี้ไปได้
พลันมือที่เปะปะไปมาของเด็กสาวคว้าไปเจอนาฬิกาปลุกเรือนเล็กที่พนมตั้งไว้ ที่โต๊ะหัวเตียง ปรีณาไม่ทันจะได้ตั้งใจคิดอะไรมาก สัญชาตญาณแห่งการปกป้องตนเองนั้น ก็ทำให้เธอสะบัดมือกระแทก

นาฬิกาเรือนนั้นไปที่ขมับของพนมที่กำลังขย้ำขยี้เธออย่างเมามันสุดแรง
เสียง โพล๊ะ ดัง ขึ้นพร้อมๆ กับเสียงแผดร้องของชายหนุ่ม เลือดสดๆ สาดกระจายออกมาเป็นด่างดวง
พนมกุมมือไปที่ขมับด้วยความเจ็บปวด ปรีณาได้ทีพยายามดิ้นรนหนี แต่ร่างของชายหนุ่มที่นั่งทับเธออยู่ก็หนักจนเกินกว่าร่างเล็กบางของเด็ก สาวจะผลักให้เซออกไปได้
ชายหนุ่มที่ใบหน้าแดงก่ำ เลือดสดๆ ไหลออกมาจากปลายคิ้วขวา ดวงตาที่จ้องไปที่เด็กสาวนั้นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ความเจ็บปวดที่ได้รับแรงขับจากความคั่งแค้น ทำให้พนมกระชากนาฬิกาเรือนเล็ก

จากมือของปรีณาเหวี่ยงออกไป ก่อนที่จะกำหมัดกระแทกเข้าไปที่ท้องน้อยของเด็กสาวอย่างแรง จนปรีณาร้อง อ๊อก ร่างเล็กบางนั้นงองุ้มอย่างเจ็บปวดรวดร้าว อาการขัดขืนดิ้นรนนั้นสูญหายไปโดยพลัน
"พี่หนึ่ง...บีขอร้อง...อย่าทำร้ายบี.."
ปรีณาร่ำไห้ พยายามวิงวอนขอร้อง แต่อาการจุกเสียดที่ท้อง ทำให้เสียงของเด็กสาวแหบพร่าดังแผ่วราวกับกระซิบ พนมที่ความแค้น และความปรารถนาที่คุกกรุ่นปะปนกัน ไม่สนใจต่อคำพูดที่น่าเวทนา

สงสารนั้น ชายหนุ่มใช้มือควานไปเหนี่ยวที่ขอบกางเกงในของเด็กสาว กระชาก ปึ้ก เดียว กางเกงในผืนน้อยนั้นก็ขาดวิ่น ถูกถลกร่นไปคาอยู่ตรงหัวเข่าข้างซ้าย
มือแข็งแรงของเขาจับสองขาเรียวเล็กนั้นถ่างออก ลนลานควักท่อนควยที่แข็งเป็นลำออกมาจากเป้ากางเกง จ่อพรวดไปยังร่องหลืบสวรรค์ที่ปิดสนิท กลีบแคมขาวใส ราวกับกลีบดอกไม้ สวยงาม บริสุทธิ์

ผุดผ่อง แสดงตัวอย่างชัดเจนว่าไม่เคยต้องผ่านควยชายผู้ใดมาก่อนของปรีณา โดยที่ร่างเล็กบางนั้นไม่มีเรี่ยวแรงและความสามารถในการขัดขืนแม้แต่น้อยนิด
"พี่หนึ่ง...อย่าาาาาา"
ปรีณากรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อเด็กสาวรับรู้ถึงท่อนเนื้อของพนมแหวกร่องสงวนสุดหวงแหนของเธอเข้ามา ขณะที่พนมแยกเขี้ยว สูดปากออกมาเพราะความแสบหัวถอกของตนเองที่แหวกฝ่าประตู

สวรรค์ที่คับตีบฟิตสุดๆ นั้น
แต่ความแสบนั้นหาได้หยุดยั้งการกระทำของพนมไม่ ชายหนุ่มคำรามเสียงกระเส่า สองมือคว้าไปที่โคนขาอ่อนขาวนุ่มนิ่มของปรีณา จับแบะถ่างออกสุดๆ ก่อนจะอัดกระเด้าควยทะลวงร่องสวรรค์ที่บริสุทธิ์

ผุดผ่องนั้นเข้าไปอย่างรุนแรงหักโหม
ปรีณาสะท้านเฮือกรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวแทบขาดใจ ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักที่แหงนขึ้นอย่างเหยเกสุดๆ ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มนั้นอ้าออกค้าง แต่ทว่าความเจ็บปวดนั้นแปลบขึ้นมาจับจิต กระทั่งสุ้มเสียงที่จะร้อง

ออกมายังไม่มี สองแขนบอบบางที่ทิ้งไปด้านข้างนั้นขยำไปที่ผ้าปูที่นอนแนบแน่นเกร็งไปทั้งลำแขน
อาการแสดงออกมาอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ไม่ต่างอะไรกับปาริฉัตรที่แสดงออกมาในคืนแต่งงานของเขา มิหนำซ้ำดูไปประหนึ่งว่าปรีณาจะแสดงอาการเจ็บปวดมากมายยิ่งไปกว่าเสียอีก ทำให้พนมที่มองเห็น

นั้นอดคิดไม่ได้ว่า หรือน้องภรรยาของเขาจะไม่ได้ทำตัวเหลวแหลกอย่างที่เขาคิด? ความฉุกคิดขึ้นมานั้นทำให้พนมรู้สึกเสียววาบไปถึงทรวง
แต่ทันใดนั้น ยามที่พนมทะลวงควยเข้าใส่ร่องสวรรค์อันตีบฟิตสุดกระชับ แต่ทว่าหาได้รับรู้ถึงเลือดสาวไหลที่หลั่งไหลออกมาแต่อย่างใดไม่ ประสบการณ์ที่พนมจำได้ดีในคืนแต่งงานของเขา ทำให้ชาย

หนุ่มค่อยคลายใจจากความรู้สึกอึดอัดที่เกิดจากความลังเลไม่แน่ใจ บังเกิดความเชื่อมั่นทันทีว่าน้องภรรยาคนนี้ของเขาเป็นเด็กสาวใจแตกอย่างที่ คิด
อนิจจา ในความเป็นจริงนั้น เพราะความซุกซนของปรีณาที่บ่อยครั้งปิดเทอมฤดูร้อนไปเที่ยวฟาร์มของเพื่อน สนิท เด็กสาวชอบขี่ม้าเล่น เคยมีครั้งหนึ่งประสบอุบัติเหตุม้าพยศเพราะเธอขี่ม้าไปเจองูเห่าตัว

หนึ่ง ม้าตัวนั้นยามตกใจ ยกขาขึ้นสูง พร้อมกับสะบัดตัวเหวี่ยงสลัดเด็กสาวพลัดหลุดจากอานม้าตกกระแทกพื้นอย่างแรง และเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้เยื่อพรหมจรรย์ของปรีณาขาดไป
"ฮะ ฮะ เธอมันเป็นเด็กร่านสวาทอย่างที่ฉันคิดจริงๆ"
พนมแค่นเสียงดูถูกเหยียดหยาม พร้อมกับสลัดความคิดสงสารทีท่าอันแสดงออกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวตรงหน้าออกไป รวบรวมแรงกระเด้าควยลงไปอย่างรุนแรงเมามันหักโหม ปึ้ก ปึ้ก
ควยของชายหนุ่มที่แม้ไม่มหึมาน่ากลัว แต่ถึงกระนั้นมันก็หนาอวบเพียงพอที่จะทำให้เด็กสาวรู้สึกทรมานจนแทบจะขาดใจ
เหงื่อกาฬใหลออกมาพรั่งพรูใบหน้าของพนม ขณะที่เขาจับเรียวขาบางที่เพรียวสวยไปจรดปลายเท้าที่มีถุงเท้าเนื้อนุ่มสี ขาวสวมใส่ขึ้นพาดบ่า และกระเด้าอัดยัดท่อนเนื้อของเขาจมหายเข้าไปร่องหลืบ

สวรรค์ที่แห้งผากฟิตตีบนั้นจนหมดลำ
จากนั้นพนมก็เกร็งสะโพก กระเด้าควยของเขาเข้าออกร่องหีที่สุดฟิตกระชับรัดไปลำควยของเขาแน่นอย่างยาก ลำบาก ชายหนุ่มขบฟันแน่น รู้สึกแสบหัวถอกที่ครูดไปกับผนังช่องคลอด แต่เมื่อมองเห็นใบ

หน้าขาวซีดเผือดของปรีณาที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวมันทำให้ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกสาแก่ใจจนข่มความแสบนั้นไปสนิท
เขารั้งมือไปที่ข้อพับหลังหัวเข่าของปรีณา ม้วนขาเรียวบางขึ้นไป หงายโคกเด็กสาวให้ตัวเองขย่มควยลงไปได้ถนัดขึ้น ก่อนกระเด้าควยเข้าออกเร็วขึ้นๆ โดยไม่สนใจ ร่างของเด็กสาวที่สั่นระริกไปทั่วทุก

ขุมขน ร่ำไห้ครวญครางโหยไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสแต่อย่างใด
ถึงแม้ปรีณาจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานจากการถูกบังคับข่มขืน แต่ร่องหลืบอันฟิตตีบของเธอนั้นเมื่อค่อยๆ ขยายออกรับท่อนควยที่รุกล้ำเข้ามาแล้ว กลับเริ่มหลังสารหล่อลื่นออกมารับการกระเด้าอัด

ของพนมตามธรรมชาติ ทำให้ควยอวบของพนมเคลื่อนไหวลื่นขึ้นสะดวกขึ้น ชายหนุ่มครางออกมาอย่างเป็นสุขหฤหรรษ์ จังหวังเย็ดนั้นเร่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะร่องสวรรค์นั้นเริ่มเปิดทางกว้างให้
ลมหายใจของพนมเริ่มกระชั้น และหนักหน่วงขึ้นตามจังหวะการกระเด้าเย็ดที่เร็วขึ้น ท่อนควยผลุบเข้าผลุบออก ครูดไถไปกับผนังช่องคลอดที่อ่อนนุ่มสุดกระชับ สร้างความเสียวกระสันให้กับชายหนุ่มจน

ขนลุก ส่งเสียงครางกระเส่า
"อาาา...อาาาา...โอวววว..."
พนมหลับตาส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียว ขณะที่ปรีณาถึงแม้ร่องหีของเธอจะขยายออกเปิดทางสะดวกให้กับท่อนเนื้อที่ รุกล้ำเข้ามา แต่ความเจ็บปวดที่เธอได้รับมันก็ยังคงพลุ่งพล่านขึ้นไปถึงทรวง ร่าง

เล็กบางสั่นสะท้านไปตามแรงกระเด้านั้น
"พี่หนึ่ง...บีเจ็บค่ะ....ได้โปรดอย่า..อย่า..ทำรุนแรงกับบีนัก.."
ปรีณากัดฟันข่มความเจ็บปวด วิงวอนขอร้องเสียงสั่นสะท้าน แต่คำพูดของเด็กสาวกลับกลายเป็นเร่งเร้าให้พนมกระเด้าเย็ดเธอเร็วขึ้น แรงขึ้น ร่างเล็กบางสะท้อนสะท้านไปตามแรงเฟ้นฟอนของชายหนุ่ม

ที่ทั้งอัดควย และขยำขยี้ไปบนสองเต้าอย่างป่าเถื่อน หยาบกระด้าง
ยิ่งปรีณาร้องไห้ ขอร้อง พนมยิ่งตอบสนองเธอเป็นตรงกันข้าม จนเด็กสาวที่เจ็บปวดจนร่างกายแทบแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ไม่กล้าเอ่ยปากขอความเห็นใจใดๆ จากพี่เขยของเธออีกเลย ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน

ความปวดร้าวที่พนมยัดเยียดให้เธออย่างสาหัสทั้งกายและใจ
ส่วนพนมนั้น ยิ่งเห็นน้องภรรยาเจ็บปวดเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความสะใจให้กับเขามากขึ้นเท่านั้น ควยอวบนั้นควงบดขยี้ไปตามโพรงหีที่อ่อนนุ่มนั้นไม่หยุด
ในที่สุดท่ามกลางความเจ็บปวดรวดร้าวของปรีณา ท่อนเนื้อที่ครูดไถบดเบียดอยู่ในร่องสงวนที่สุดหวงแหนของเธอนั้นก็สะกิดความ เสียวซ่านสายหนึ่งให้ปะทุขึ้นมา เป็นความเสียวซ่านที่เด็กสาวไม่มีปัญญา

จะหักห้ามไม่ให้บังเกิดขึ้นได้ ร่างเล็กบางนั้นกระตุกเฮือก ๆ ร่องหีตอดรัดควยอวบที่ทะลวงเข้ามา
ความเสียวซ่านนี้เป็นความรู้สึกที่ปรีณาเพิ่งรู้จักเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อค่ำคืนวานนี้เอง ความรู้สึกนั้นทำให้ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักที่จำเดิมซีดขาวไร้สีเลือดปรากฏ ริ้วรอยแดงซ่านขึ้นมาทันที
ขณะที่พนมซึ่งกระเด้าอัดควยไม่ยั้ง รับรู้ถึงอาการตอดขมิบของร่องหีที่ตนเองกำลังเย็ดใส่ ร่างเล็กบางที่กระตุกอย่างเสียวซ่าน และลมหายใจหอบถี่อย่างรัญจวนใจของปรีณา
"เผยธาตุแท้ออกมาแล้วล่ะสิ นังเด็กร่านสวาท"
พนมตะคอกใส่อย่างเกรี้ยวกราด ปรีณาน้ำตาไหลพรากด้วยความชอกช้ำใจในคำพูดของพี่เขย เด็กสาวกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดไหลออกมา หวังว่าความเจ็บปวดนั้นจะบั่นทอนให้ความรู้สึกที่เธอไม่ต้องการ

ให้บังเกิดนั้นลดลงไป แต่ท่อนเนื้อที่บดควงเข้ามาอย่างรุนแรงในที่สุดก็ทำให้เธอต้องแอ่นตัวอย่างสุดปัญญาจะข่มกลั้น
"อา...อา...อาาาาา."
ปรีณาแหงนหน้าส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างรัญจวนใจในที่สุด สองแขนบอบบางนั้นตวัดรัดไปที่กลางหลังของพนมอย่างลืมตัว
ร่องหีฟิตกระชับที่ขมิบตอดท่อนควย และโหนกหีที่แอ่นขึ้นรับการกระเด้าเย็ดของเขา มันทำให้พนมเสียวกระสันซ่านจนขนลุกเกรียว เร่งเครื่องกระเด้าอัดเป็นการใหญ่ เสียงป๊าบ ป๊าบ เมื่อหน้าขาปะทะ

แก้มก้นขาวนวล
ในที่สุดความเสียวซ่านไหล่บ่าท่วมท้นความรู้สึกของปรีณาราวกับน้ำบ่าทำนบ ทลาย ก็ทำให้เด็กสาวแอ่นโคกตัวเองเสนอสนองการกระเด้าเย็ดนั้นอย่างเร่าร้อน ร่างเล็กบางสะท้านเฮือก กระตุกถี่ๆ
สองแขนรัดไปที่กลางหลังพี่เขยของเธอแนบแน่น
"อา...อาาาาาา...อาาาาา...อ๊าาาาา...อ๊าาาาาาา"
ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักนั้นแหงนขึ้นสุดๆ พร้อมกับอาการร้องครางออกมาอย่างสุดเสียงของปรีณา พนมหัวเราะออกมาอย่างหยามเหยียด
ขณะเดียวกันนั้นร่องหีที่ตอดรัดท่อนเนื้ออวบตุบๆ จากการถึงจุดสุดยอดของปรีณานั้นก็เร่งเร้าทำให้ความกระสันซ่านของพนมปะทุ ขึ้นสู่จุดเดือดในเวลาไล่ๆ กัน ชายหนุ่มโถมกายลงไปบดควยทะลวงลึก

เข้าใส่หลืบสวรรค์อย่างเร่งร้อนถี่ยิบ
ปรีณาแลเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวแสดงความรู้สึกกระสันซ่านใกล้จะระเบิดถึงจุดสุดยอดของพี่เขยแล้วก็พอจะเดาอะไรได้
"พี่หนึ่ง...พี่หนึ่ง..อย่า...อย่า...หลั่งในตัวบีนะคะ...บี..บี..กลัวท้อง.."
ปรีณาส่งเสียงแผ่วสะท้านวิงวอนขอร้อง พนมระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น จับเพรียวขานั้นแหกถ่าง ดันม้วนขึ้นไปสุดๆ เด็กสาวไม่แลเห็นทีท่าที่พี่เขยจะยินยอมเห็นใจคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเธอ เลยแม้แต่

น้อย ทำให้ปรีณาพยายามดิ้นรนสุดชีวิต
อา แต่ในสภาพนี้ปรีณาจะยังสามารถหนีไปที่ไหนได้?
"พี่หนึ่ง..อย่าาาาาา"
เด็กสาวร้องออกมาสุดเสียง ขณะที่พนมส่งเสียงครางกระเส่า ร้องเสียงดังลั่นไม่แพ้กัน กระแทกสะโพกอัดควยเข้าไปอย่างรุนแรงพร้อมๆ กับระเบิดน้ำเชื้อของเขาราดรดเข้าไปในโพรงช่องคลอดที่สะอาด

บริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ราคีคาวของปรีณาอย่างสุดๆ
ปรีณาร้องไห้ออกมาสะอึกสะอื้น ร่างที่พยายามดิ้นนั้น พลันอ่อนเปลี้ยไปราวกับถูกไฟช๊อต เด็กสาวรับรู้ถึงของเหลวอุ่นๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวเธอแล้วสยิวกายสั่นสะท้านอย่างหวาดผวาขวัญเสีย
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะมาแล้ว ถ้าเธอท้องขึ้นมาจะทำยังไง?
พนมไม่สนใจอาการท้อแท ทอดอาลัยตายอยากของปรีณา วนเวียนกระเด้ารีดเค้นน้ำเชื้ออกไปจากท่อนควยจนกระทั่งหมด ชายหนุ่มก็ฟุบหอบนอนทาบทับไปบนร่างเล็กบางที่สั่นสะท้าน สะอื้นไห้ ออกมา

จนตัวโยน
จากนั้นพนมก็หัวเราะออกมาอย่างสมใจ ผุดลุกขึ้นจากร่างของปรีณาที่นอนแบบบนเตียง ชายหนุ่มซุกเก็บท่อนเนื้อของเขากลับเข้ากางเกง ขณะที่ปรีณารวบชายเสื้อที่ขาดวิ่นเข้าหากัน ปัดชายกระโปรง

ยาวกลับเข้าคลุมขา ก่อนจะขดตัวเป็นก้อนกลม ร่ำไห้ออกมาตัวสั่นสะท้านราวกับจะขาดใจ
พนมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ค้นเอาเสื้อยืดตัวใหญ่ออกมาหนึ่งตัวโยนให้ปรีณาที่ขดตัวร้องไห้บนเตียงอย่างไม่ไยดี
"หยุดร้องไห้ซะทีเถอะน่า ฉันรำคาญ"
พนมพูดอย่างไม่มีความเวทนาสงสารเลยแม้แต่น้อย ทางหนึ่งหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาซับเลือดที่เกรอะกรังตรงขมับตนเอง อีกทางหนึ่งชี้มือไปที่เสื้อยืดตัวโคร่งนั้น
"เสื้อผ้าเธอมันขาดหมดแล้ว ใส่เสื้อยืดตัวนั้นไปแทนก็แล้วกัน"
ชายหนุ่มหัวเราะออกมา กล่าวต่อด้วยวาจาที่ต้องการทำร้ายจิตใจของปรีณาตรงๆ
"รึเธอจะไม่ใส่ อยากจะกลับบ้านในสภาพอย่างนี้ก็ตามใจ เด็กร่านอย่างเธอคงไม่คิดอะไรใช่ไหม"
ปรีณาที่นอนขดอยู่รีบคว้าเสื้อยืดนั้นสวมทับเสื้อนักเรียนที่กระดุมขาดออก หมดอย่างชอกช้ำใจ จากนั้นเด็กสาวก็ผวาลุกขึ้นจากเตียงราวกับกวางน้อยได้รับบาดเจ็บโผผวาออกไป หาอ้อมอกแม่ แต่ความเจ็บปวด

รวดร้าวที่เกิดขึ้นตรงท้องน้อย ทำให้ร่างเล็กบางนั้นเข่าอ่อนยวบต้องล้มฟุบลงไปกับพื้นหน้าเตียง
พนมรู้สึกเสียววาบในใจ ขณะที่มองร่างเล็กบางที่พยายามดิ้นรนลุกขึ้นมา ใบหน้าของปรีณานั้นเปรอะไปด้วยน้ำตา แสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสทั้งร่างกายและจิตใจ
นี่เขาทำเกิดไปหรือ?
แต่ชายหนุ่มพยายามร้องบอกกับตนเองว่า สิ่งที่เขาทำนั้นสาสมกับความประพฤติของน้องภรรยาคนนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม พนมที่ไม่ใช่เป็นคนที่โหดเหี้ยมใจร้ายโดยกลมสันดาน อดที่จะร้องโพล่งอย่างตกใจไม่ได้ เมื่อเห็นร่างเล็บบางที่พยายามฝืนลุกขึ้นยืนขึ้นมานั้น ก้าวเดินไปอีกก้าวเดียวก็ล้มคะมำลงไปกับพื้น

หายใจรวยริน ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักนั้นซีดเผือดไร้สีเลือด
ชายหนุ่มปราดเข้าไปเขย่าตัวของน้องภรรยา พบว่าปรีณานั้นสิ้นสติไปเพราะความช๊อคแล้ว
พนมรีบอุ้มร่างเล็กบางเบาหวิวนั้นกลับขึ้นไปนอน ชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างเตียง มองดูใบหน้าที่ซีดขาวไร้สีเลือดของปรีณา แล้วต้องยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองอย่างสับสนใจ
พนมนั่งซึมมองเห็นร่างเล็กบางที่นอนอยู่สั่นสะท้านราวกับลูกนกเปียกฝน ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักที่เปรอะไปด้วยน้ำตานั้นขมวดคิ้วมุ่น หว่างคิ้วนั้นขยิบกระตุกๆ เหมือนกับตกอยู่ในห้วงแห่งฝันร้าย ความ

เวทนาสงสารที่พลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างแรง ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะลูบไล้ไปยังศีรษะเล็กๆ นั้นไม่ได้
อาการทุรนทุรายของร่างเล็กบางนั้นคล้ายกับว่าได้รับกระแสแห่งความรักและ เวทนาที่ผ่านจากมือของพนม ทำให้ใบหน้าอ่อนหวานนั้นคลายความเครียดขึ้งลง หว่างคิ้วที่ขมวดก็ผ่อนออก ลมหายใจนั้นราบ

เรียบสม่ำเสมอขึ้น
จากนั้นชายหนุ่มก็เฝ้าดูอาการของน้องภรรยาอีกพักใหญ่ ก่อนที่จะถอนหายใจยาว ใช้ผ้าห่มขึ้นคลุมร่างเล็กบางของปรีณาเอาไว้ จากนั้นก็ผุดลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอน

ไม่มีความคิดเห็น: